บันเทิง
‘ตุ้ม รสริน’ รับงานราชการใหญ่
รับงานราชการใหญ่ ไร้เงินเดือนตอบแทน
ปัจจุบัน ‘ตุ้ม รสริน’ อดีตนางเอก ที่หายไปร่วม 10 ปีจากจอ
“ตุ้ม-รสริน จันทรา” ดาราเจ้าบท และนักแสดงในดวงใจของแฟนหนังแฟนละครชาวไทย ผู้ผันผ่านทั้งงานเบื้องหน้า และเบื้องหลังในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย วันนี้ได้โอกาสย้อนวันวาน
ช่วงเวลาที่เธอพยายามสานฝันจนประสบความสำเร็จ รวมถึงอัพเดทความเป็นไปในปัจจุบัน ที่เธอผันตัวเองไปทำงานเพื่อสังคม ในบทของผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี
มายาวนานกว่า 7 ปีแล้ว ก้าวเข้าสู่การปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาสมทบฯ ตุ้มไปสมัครเองค่ะ คือเรามีความรู้สึกว่าอยากทำงานเพื่อสังคม จริงๆ เป็นงานจิตอาสา แล้วตัวตุ้มเองเป็นจิตอาสาอยู่แล้ว
เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสเช่น ชอบเอาของไปบริจาคคนยากไร้ หรือชาวบ้านที่ยากจน ตำรวจ ทหาร ที่อยู่ชายแดน ตุ้มทำตรงนี้มาโดยตลอด เป็นคนที่ชอบให้ การได้ทำตรงนี้
เหมือนก็ได้สร้างกุศลนะ เป็นงานที่ไม่ได้เป็นผลตอบแทนรายเดือน แต่มันเป็นการเสียสละเวลา เราเอาเวลาที่เรามีไปให้กับทางศาลเพื่อที่จะได้ดูแล อบรม ช่วยเหลือ ให้คนที่คิดผิด กระทำผิด
ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เขาเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม เป็นอีกหนึ่งงาน อีกหนึ่งหน้าที่ ที่ยากมากค่ะ ตอนนี้ทำมาเกือบ 7 ปี เราก็มีประสบการณ์ประมาณนึงที่จะช่วยเหลือ ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ให้เขาไปในทางที่ดี จะได้มากหรือน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย ส่วนหน้าที่หลักๆ ที่ต้องทำ เขาจะมีเป็นเวรค่ะ ท่านหัวหน้าศาลท่านจะจัดเวรให้เรา เดือนนึงอาจจะเข้า 2 หรือ 3 ครั้ง แต่ว่าก็เข้ามากกว่านั้น
เพราะทางศาลจะมีกิจกรรม เขาเรียกว่าบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู พอคนเข้ามาก็จะเจอกับพวกเรา ผู้พิพากษาสมทบ ซึ่งจะต้องมีหน้าที่อบรมเขา ให้คำปรึกษาคำแนะนำ ว่าเขาควรจะทำยังไงกับชีวิต อย่างเช่น
เขาไปคบกับเพื่อนกลุ่มที่ไม่ดี เราก็ต้องบอกกับเขาว่า เราต้องหัดปฏิเสธนะ คือเพื่อนชวนเราไปเสพยาไปทำในทางที่ไม่ดี เราจะต้องหัดปฏิเสธเพื่อน เราต้องเลือกคบเพื่อน และ สิ่งที่ได้จากการเป็นผู้พิพากษาสมทบฯ
เหมือนเป็นการทำบุญนะคะ เราอิ่มใจมากกว่าอะไรทั้งหมด มีความสุขที่ได้ทำ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคนค่ะ เพราะถือว่าเป็นงานที่เราต้องทำด้วยหัวใจ ถ้าคนที่ไม่รักแล้วไปทำ ตุ้มว่าก็ทำไม่ได้นะ
ถ้าเป็นคนโลภมากเห็นแก่ตังคฺ์นะ ตุ้มเคยเจอบางคนบอกว่า ไปทำทำไมตังค์ ทองไม่ได้เสียเวลา แต่ตุ้มมองว่าเราไปช่วยสังคม เราเป็นผู้เสียสละเวลาที่เรามีไปช่วยเขา แต่ว่าการไปทำ
หรือไปเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าง่ายนะคะ เพราะต้องผ่านการคัดเลือก มีประวัติที่ดี อบรม สอบข้อเขียนสอบสัมภาษณ์ และเอาประวัติเราไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ เขาสืบละเอียดมากนะคะ
ไม่ใช่ว่าใครเป็นก็ได้ คนที่เข้าไปทำได้ต้องมีคุณภาพด้วย ช่วงชีวิตที่ลงตัวทุกอย่าง แฮปปี้ดีค่ะไม่มีเวลาว่างเลย (หัวเราะ) บางคนถามว่าเหงาไหม ไม่มีเวลาเหงาค่ะ
เพราะเวลาที่มีก็ไปทำงานที่ศาล ให้คิวเขาหมดเลย คือเมื่อก่อนตุ้มว่างก็จะใช้ตังค์ เดินห้างช็อปปิ้ง ซื้อคอร์สทำหน้า ทำตัว สนุกแฮปปี้ ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบัน
ที่พอเดินทางมาถึงวันนี้แล้วเราคิดว่า เออ…เราเอาเวลามาทำประโยชน์มันดีกว่าตั้งเยอะนะ (หัวเราะ) เสียดายเวลาไหมก็เสียดาย แต่ว่าตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะมาทำงานแบบนี้ไง
