บันเทิง
ย้อนชีวิตรัก 10 ปี ‘ยุ้ย-ธัญญ์’ ต่างคนต่างมีอดีต
10 ปี เมินคนครหา! ต่างคนต่างมีอดีต
ย้อนชีวิตรัก ‘ยุ้ย จีรนันท์-ธัญญ์ ธนากร’ จากสัมพันธ์เพื่อนสู่ว่าที่พ่อ-แม่ (ชมคลิปท้ายบทความ)
ครองรักกันมานาน 10 กว่าปีแล้ว สำหรับ ‘ยุ้ย จีรนันท์-ธัญญ์ ธนากร’ คู่รักพระเอก-นางเอก หลังจากจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว
และกำลังแพลนลดงานในวงการ และพร้อมเป็นพ่อ-แม่คน แล้ว เพราะทั้งคู่กำลังเตรียมมีทายาทฝาแฝด โดยล่าสุด ‘ยุ้ย จีรนันท์-
ธัญญ์ ธนากร’ เผยว่า “ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย มีไปปรึกษาคุณหมอบ้าง หมอก็อยากให้เราสบายๆ รอเบรกงานละครไปก่อน ใจเราอยาก
มีแบบธรรมชาติก่อน แต่ที่ไปปรึกษาหมอเพราะอยากได้ฝาแฝดทีเดียวเลย เพราะยังตกลงกันไม่ลงตัว ยุ้ยอยากได้ผู้หญิง ธัญญ์อยากได้ผู้ชาย
ก็เลยจะแฝดเลย แต่ตอนนี้คนเดียวก็ได้แล้ว ต้องปรึกษาเกี่ยวกับร่างกายด้วย ตอนนี้เราทำงานเยอะด้วย คุณหมอก็บอกว่าสำคัญสุดคือ
ต้องไม่กังวลกับใดๆ ต้องพักผ่อนเยอะๆ เลือกทานอาหาร เพราะถ้าตั้งใจจะมีทายาทจริงๆ ยุ้ยต้องรักษาสุขภาพ และพักผ่อนเต็มที่จริงๆ”
ส่วนทางงด้านชีวิตความรักของ ‘ยุ้ย จีรนันท์-ธัญญ์ ธนากร’ นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง ปี พ.ศ. 2555 หลังจากที่ทั้งคู่แยกทางกับทางอดีตรัก
ทั้งคู่แล้ว พักหลังครองตัวเป็นโสด ก็มีหนทางให้ได้ศึกษาดูใจกัน โดยอดีต ‘ยุ้ย จีรนันท์’ เคยคบหากับ ‘ปิ๊ด บอดี้แสลม’ นักดนตรีชื่อดัง
คบหากันเพียง 4 ปี และได้แยกทางกันในที่สุด ส่วนทางด้านฝ่ายชาย ‘ธัญญ์ ธนากร’ เคยคบหากับ ‘ต้อง ศุภัชญา รื่นเริง’ ดีเจดัง
ที่เคยเป็นเรื่องราวกันเมื่อ ปี พ.ศ.2553 โดย ‘ยุ้ย-ธัญญ์-ต้อง’ ว่านางเอกดังนั้นมาแทรกกลางระหว่างรัก แต่ยุ้ยก็ออกมาปฏิเสธหัวชนฝาว่า
ไม่ได้มีสัมพันธ์เกินเลยเพื่อน จนกระทั่งล่าสุด ‘ธัญญ์-ต้อง’ ทั้งคู่แยกทางกันจริงๆ จนกระทั่งหนึ่งปีให้หลัง ‘ยุ้ย จีรนันท์-ธัญญ์ ธนากร’
ได้ออกมายอมรับว่าคบหากันจริงๆ โดย ‘ต้อง ศุภัชญา รื่นเริง’ เผยว่า “คือตอนนี้รู้สึกสบายใจนะ เพราะต้องเป็นคนที่พูดตรงๆและพูดความ
จริงตลอด เพราะช่วงที่ผ่านมาก็โดนเยอะเหมือนกันนะว่าเกาะกระแสบ้าง พอวันนี้ที่เขาออกมายอมรับก็รู้สึกดี รู้สึกสบายใจอย่างน้อยเราก็พูดเรื่องจริง
ออกมายอมรับก็ดีแล้ว ก็จะได้ไม่ต้องปิดจะปิดไปทำไมความรักเป็นสิ่งสวยงามมันก็ไม่น่าจะผิดอะไร เพราะสุดท้ายแล้ว ความจริงก็จะวนกลับมา
เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำเราก็มีชีวิตของเราแล้ว และตอนนั้นมันค่อนข้างหนักมากเราก็ผ่านมาได้ด้วยตัวของเราเอง กับครอบครัวกับเพื่อนกับที่บ้าน กับเขาเลยไม่มีผลอะไรกับชีวิตเราแล้ว”
