ห่างวงการ! ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่แม่
ชีวิตล่าสุด ‘แนน ชลิตา’ อดีตนางเอกหลังแต่งสามี สืบทายาทให้ ‘ตุ่ม ชลิต’
ห่างหายจากละครไปนานเลยทีเดียว สำหรับ ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ที่ตอนนี้เจ้าตัวกลายเป็นคุณแม่เต็มเวลาแล้ว เพราะหลังจากแต่งงานกับ
‘เม่น ธนวัตน์ ดุษฎีวิจัย’ สามีนอกวงการ ก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ปัจจุบัน ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’
ในวัย 46 ปี ก็ยังคงมีแวะเวียนฝากผลงานในวงการบันเทิงบ้าง แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับ ‘น้องธัชช’ ทายาทบุตรชายเพียงคนเดียวที่มีตอนนี้ อีกทั้ง
‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ยังมีผลงานการเป็นพิธีกรในรายการของตัวเองกับคุณพ่อ ‘ตุ่ม ชลิต เฟื่องอารมย์’ อยู่บ้างประปราย โดยก่อนหน้านี้ ‘แนน ชลิตา
เฟื่องอารมย์’ ก็ได้มีโอกาสออกมาเปิดใจพูดคุยถึงชีวิตหลังแต่งงาน และชีวิตปัจจุบันไว้ว่า “หายไปจากละครสิบกว่าปี เพราะว่ามีครอบครัวมีบุตร แล้วช่วง
หลังบทที่ได้ เป็นแม่อะไรอย่างนี้ เรารู้สึกว่า เราไม่อิน เรายังไม่ได้มีครอบครัว หากได้รับบทร้ายก็คือเรารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องรับบทนั้นๆ พอเราไม่เชื่อ
เราก็เลยไม่รับ แค่นั้นเอง คือแต่คิดว่า ในวงการมันมีงานที่หลากหลาย ถ้าตรงนี้ไม่ถนัดเราก็ไปทำอย่างอื่น ทำรายการทีวีหลายรายการ เราก็เป็นพิธีกรรับงาน
อย่างอื่น เราก็โอเคแล้วพอดีเราฝึกโยคะมา 20 กว่าปีแล้วก็มีงานในเรื่องของโยคะเยอะ” นอกจากนี้ ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ยังเคยถูกมองว่าใช้ชีวิต
สุขสบาย ลาวงการเพราะมีสามีรวย เลี้ยงดูทุกอย่าง ทั้งนี้ ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ก็ได้เผยว่า “ไม่ใช่หรอกค่ะ สามีไม่ได้รวยอะไรมาก ไม่ได้เป็นไฮโซ
เป็นคนจีนธรรมดานี่แหละ แต่ว่าเขาเป็นคนทำมาหากิน สร้างเนื้อ สร้างตัว เขาเคยถามว่ารวยของแนนต้องมีเท่าไหร่ มีแค่นี้พอใช้ในชีวิตประจำวันไหม เรามีกำลัง
มากพอส่งทายาทคนนึงเรียนให้จบสูงๆ ได้ก็พอแล้ว ไม่ต้องโหยหาอะไรอีก แค่ไม่อยากให้ใช้เกินตัว ตัวเขาเองก็เริ่มต้นจากศูนย์ ทำงานเก็บหอมรอมริบมาจนมีวันนี้”
แต่ทั้งนี้ด้วยอาชีพที่ ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ทำมาตั้งแต่ยังเล็กคืองานในวงการละคร โดย ‘แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์’ ก็ยังคงมีงานละครให้เห็นอยู่บ้าง
“ใช่ สามีก็บอกว่าเล่นกี่วัน เสร็จกี่โมง แล้วใครจะดูน้องธัชช ช่วงนั้นก็ต้องฝากเขาดู ให้เขาช่วยเลี้ยง แต่ธัชชมีพี่เลี้ยงช่วยดูในบ้าน คุณแม่คุณยายก็ช่วยดู วันนึง
กองเลิกสี่ทุ่ม แล้วคุณสามีบอกว่ามันจำเป็นขนาดนี้เลยหรอ ต้องดึกขนาดนั้น เราก็บอกว่ารับงานมาแล้วก็ต้องทำ เขาก็บอกว่ามันดึกไปหรือเปล่า คือเราไม่ได้ทำงานดึก
ดื่นแบบนี้มานาน เขาก็ไม่คุ้น เขาไม่เชิงห้าม เขาก็บอกว่ามันจำเป็นไหม มันจำเป็นกับชีวิตเราหรือเปล่า เขาบอกว่าจริงๆช่วงนี้ 0-3-4 ขวบ แม่ควรจะใกล้ชิดกับบุตร
ให้มากที่สุด เราเข้าใจ เขาบอก เขามีหน้าที่หาตังค์ อยากให้เราเลี้ยงน้องธัชชให้ดีที่สุด ซึ่งคุณสามีเขาก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย เราจ่ายในส่วนของเราแต่ว่าที่เหลือแทบไม่ต้องออกอะไร”
