บันเทิง
ปัจจุบัน ‘บี๋ สวิช’ อดีตพระเอกยุค 90
ปัจจุบัน ‘บี๋ สวิช’ อดีตพระเอกยุค 90
หายหน้าหายตาไปนาน สำหรับอดีตพระเอกชื่อดังในตำนาน อย่าง “บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ” ที่ฝากผลงานละครเรื่องแรกของคือ
“คือหัตถาครองพิภพ” เมื่อปี 2538 นอกจากนี้”บี๋ สวิช” ยังมีผลงานละครอีกมากที่ได้รับความนิยมเช่น “ดอกแก้ว” ซึ่งเล่นคู่กับ”
กบ สุวนันท์ คงยิ่ง”ทั้งนี้”บี๋ สวิช”ก้าวสู่วงการบันเทิง จากการไปเดินเล่นสยามสแควร์กับเพื่อน เมื่อมาเยี่ยมคุณย่าที่กรุงเทพฯ ได้ทาบทาม
มาถ่ายโฆษณา จึงเริ่มต้นการเป็นนายแบบ โดยการถ่ายแบบลงใน “ดิฉัน” เป็นงานในวงการบันเทิงครั้งแรก จากนั้นถ่ายนิตยสารอีกหลาย
เล่มต่อมา”บี๋ สวิช”ได้แสดงละครเรื่องแรกทางช่องน้อยสี ในเรื่อง “นางอาย” ขณะเดียวกันก็มีผลงานละครกับช่องหลากสี โดยการชักชวนของ “
ดวงดาว จารุจินดา” เข้ามาทดสอบหน้ากล้องกับ “สยาม สังวริบุตร” ได้รับบทเป็น “พฤกษ์” ในละครคือ “หัตถาครองพิภพ” จากนั้นได้รับเล่น
ละครย้อนยุคฟอร์มใหญ่อย่าง “ร่มฉัตร” หลังจากละครเรื่องนี้ก็ได้รับบทเป็นพระเอกกับทางช่องหลากสีก่อนจะรับบทนำเต็มตัวในละครเรื่อง “ดอกแก้ว”
คู่กับ “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” จากนั้นมีผลงานละครอีกหลายเรื่อง และยังมีงานเพลงลูกทุ่ง จากอัลบั้มเพลงประกอบละคร “พ่อดอกรักเร่” ไม่นานมานี้
ออกมาเปิดใจ เผยมรสุมชีวิตโดนโกงตัง 5 ล. เครียดหนักถึงขนาดคิดลาโลกผมไปหลงกลในเรื่องของโควต้าลอตเตอรี่ ซึ่งคนคนนั้นก็ได้แอบอ้างว่ารู้จัก
กับผู้ใหญ่ในกองสลากฯ ได้โควต้ามา 200 ล. ในราคาทุน“เมื่อก่อนขายใบละร้อย อาจจะได้ใบละ 80 กว่าแล้วมาปล่อยโดยมีส่วนต่าง โดย 3 เปอร์เซ็นต์
แรกเนี่ยนายหน้าได้ไป อีก 3 เปอร์เซ็นต์คืนทุนให้กับคนที่ได้โควต้ามา และส่วนสุดท้ายคืนให้กับเรา”ถ้าครั้งนึงลง 1 ล. จะได้ดอกเบี้ย 3 หมื่นบาทต่องวด
โดยเขานั้นก็ได้ร่วมลงทุนไปเช่นกัน ล็อตแรกลงไป 2 ล็อตหลังลงไป 3 เป็น 5 ล.”พอลงทุนไปงวดแรก เขาจ่ายเป็นดอกเบี้ยคืนมา พองวดที่ 2 ตนเองเริ่มรู้สึกแปลกๆ เลยไป
ขอยกเลิกสิ่งที่รู้สึกแปลกจนต้องไปขอตังคืนนั้น เขาได้เล่าให้ฟังว่า เป็นเพราะเขามีตัวละครเพิ่มมาเรื่อยๆ แล้วพอไปเช็กตัวแทนจากกองสลากฯ ไม่มีชื่อเขาอยู่ในนั้นเลย
ก็เลยทำให้เริ่มไม่มั่นใจ“ก็อยากเตือนภัยว่า ดอกเบี้ยต่างๆ แล้วเราไปโลภอยากได้ เพราะขนาดแบงก์ต่างๆ ดอกเบี้ยยังไม่เท่านี้เลย”ซึ่งตอนนี้ยังเป็นคดีจนถึงทุกวันนี้“เราก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร
ก็เลยรู้สึกว่า หรือเราอย่ามีชีวิตอยู่เลยดีกว่า แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ความคิดนะ”“แล้วเราไปทวงตังที่บ้านเขา เรากลับถูกดำเนินคดีว่าไปบุกรุกบ้านเขา”จนทำให้วูบนึงของความคิด
รู้สึกว่าไม่อยากอยู่ต่อไปอีกแล้ว เป็นโมเมนต์ของคนที่หาทางออกไม่เจอและสิ่งที่ดึงสติกลับมาได้คือการที่เคยได้บวชเรียนครั้งหนึ่ง
