ปัจจุบัน ‘แมน ศุภกิจ’ อดีตรัก ‘เมจิ’

ปัจจุบัน ‘แมน ศุภกิจ’ อดีตรัก ‘เมจิ’

หายหน้าจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่เลยทีเดียว สำหรับ ‘แมน ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์’ ดาราหนุ่มหล่อมาดเท่ ในวัย 47 ปี ปัจจุบันก็บอกเลยว่า

เป็นแฟมมิลี่แมนสุดๆ เพราะหลังจากแต่งงานครั้งที่ 2 กับ ‘คุณโมเต็ม กุลรัศมิ์ บุญยะอนันท์’ ภรรยานอกวงการ ก็ได้ให้กำเนิดทายาททั้ง 2

อย่าง ‘น้องจีน’ พี่ชายคนโต วัย 4 ขวบ และ ‘น้องจีซู’ น้องสาวคนเล็ก วัย 2 ขวบ เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นสุดๆ อีกทั้ง

ในปัจจุบัน ‘แมน ศุภกิจ’ ก็ผันตัวเป็นเจ้ากิจการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจการร้านอาหารและอื่นๆ อีกมากมาย นานๆ จะหวนกลับคืนจอการแสดง

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ‘แมน ศุภกิจ’ อดีตเคยคบหากับ ‘เมจิ อโณมา’ อดีตดาราสาวชาวไทย-ญี่ปุ่น หลังคบหากันมา

นานกว่า 10 ปี และตัดสินใจแต่งงานอยู่กินกันได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ทางด้านฝ่ายหญิง ก็ออกมาเปิดใจว่าได้ยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามี-ภรรยา เหลือเพียง

เพื่อนและมิตรภาพที่ดีต่อกัน โดย เมื่อช่วงราวๆ ปี พ.ศ. 2553 ‘เมจิ อโณมา’ ก็ได้เผยว่า “แยกทางกันมาได้สักพักนึงแล้วค่ะ สาเหตุเหมือนอย่างที่

ได้ตอบไปว่า ก็เพราะว่าเรามีความคิดหรือทัศนคติบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน แล้วก็อีกอย่างนึงอีกสาเหตุนึงก็คือในเรื่องของเรามีความรู้สึก ที่เป็นพี่เป็นน้องกัน

มาได้สักระยะนึง เพราะฉะนั้นว่าเราจำเป็นที่จะต้องออกมาในลักษณะที่เป็นพี่น้องดี กว่าในสถานะของสามีภรรยา แน่นอนชีวิตคู่มันเป็นเรื่องปกติว่าถ้าเข้ามา

ในเรื่องแบบ นี้เนี่ยทุกคู่มันต้องเป็นปัญหาแน่นอน แต่ว่าอย่างที่บอกไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่เราสามารถแก้ได้แล้วก็หา ทางออกด้วยกันได้ทั้งคู่ แต่ปัญหาส่วนตัว

มากกว่าอันนี้ปัญหาใหญ่กว่า” ส่วนทางด้านฝ่ายชาย ‘แมน ศุภกิจ’ ก็ได้ออกมาเปิดใจในช่วง ราวปี พ.ศ. 2560 หลังจากประกาศแต่งงานครั้งที่ 2 กับ

‘คุณโมเต็ม กุลรัศมิ์ บุญยะอนันท์’ โดย ‘แมน ศุภกิจ’ เผยว่า มองว่าการแต่งงานเป็นแค่การเริ่มต้น แต่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องมีอะไร

อีกเยอะแยะตามมา เราต้องประคับประคองกัน อย่าลดความเสมอต้นเสมอปลาย หรือความสำคัญอะไรลงไป ที่พูดแบบนี้เพราะในฐานะที่เคยมีภรรยา

และแต่งงานมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดหนักกับการแต่งงานครั้งที่ 2 เพราะชีวิตคนคนหนึ่งก็ผ่านอะไรมาเยอะไม่เท่ากัน เพียงชีวิตการแต่งงานครั้งแรก อาจ

จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตก็คือชีวิต เราไม่ต้องไปกังวลกับทุกอย่าง เพราะไม่มีอะไรจีรังแน่นอนอยู่แล้ว