บันเทิง
ชีวิตหลังแต่ง ‘อุ้ย สุธิตา’
ชีวิตหลังแต่ง ‘อุ้ย สุธิตา’
หลายคนยังคงจำหน้าเธอได้เป็นอย่างดี สำหรับอดีตนางเอกชื่อดัง อุ้ย สุธิตา ซึ่งตั้งแต่เจ้าตัวแต่งงานก็ห่างหายไปจากวงการ จนมีข่าวเม้าธ์ว่าเจ้าตัวมีสามีดี
เลี้ยงดูปูเสื่อราวกับซินเดอเรลล่าเลยทีเดียว หายหน้าหายตาไปทำอะไรมา? “ไปเป็นศรีภรรยา เป็นแม่ที่ดีของบุตร ดูแลบุตร” สมัยก่อนไม่ค่อยมีข่าวหรือเปล่า
คนก็เลยไม่รู้ว่าเราหายไปไหน? “เราเป็นคนไม่ค่อยเอาเรื่องส่วนตัวมาบอกอยู่แล้ว เราค่อนข้างแยกกันไปเลย แต่ช่วงแต่งงานก็เป็นข่าวดัง
ตอนแรกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะแต่งเร็ว แต่สามีเป็นคนหัวโบราณนิดนึง เขาก็ต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัดก็คิดๆ ตรงนั้นไว้” จริงไหมที่ว่าหายไป
จากวงการบันเทิงเพราะได้สามีดี เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีเลย บ้านสวย เป็นเจ้าหญิง ซินเดอเรลล่า? “ซินเดอเรลล่าภาคที่ไม่ได้ไปงานปาร์ตี้
มากกว่า คงเพราะเราชอบทำอะไรกันเอง ไม่ค่อยมีคนอื่น คือปาร์ตี้เยอะ นัดเพื่อนเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าวันปกติก็จะมีแค่ครอบครัวเรา ไม่ชอบ
มีคนใช้อยู่ที่บ้าน เราเป็นประมาณขี้หวงก็เลยทำทุกอย่างเอง” แต่ก็มีเหตุการณ์ฉันไม่ไหวต้องแยกทางกันแล้ว? “มันมีช่วงของมัน ความที่เรา
ห่างวงการก็คิดถึงเพื่อน แล้วพอมีบุตรก็ลืมคิดไปว่าวันนึงบุตรต้องไปโรงเรียน ชีวิตช่วงนี้มันแย่ มันเหนื่อยมาก จันทร์-ศุกร์ ต้องขับรถออกจาก
บ้าน ไปรับ-ไปส่ง ด้วยความที่งงเวลา ทุกอย่างอยากทำเอง คนขับรถก็ไม่จ้าง หลังจากนั้นมันพีก แล้วสามีก็เริ่มจากแต่ก่อนบินไปไหนก็ไปทั้ง
ครอบครัว พอช่วงที่บุตรไปโรงเรียนก็มีช่วงเขาอยากพักเหนื่อย คุณสามีก็บินอย่างเดียวเลย เราก็มีความรู้สึกว่าแล้วฉันล่ะ ทำไมต้องมาอยู่ตรงนี้
คนเดียวกับบุตร เราไม่โอเคกับตรงนี้มั้ย ฉันอยากมีความเป็นอิสระ” “แล้วเขาก็เริ่มยุ่งกับงานของเขา เขาก็โตขึ้น เป็นช่วงที่ผู้ชายงานก็ดี แต่ผู้
หญิงกลายเป็นถอยเข้าคลองไปอยู่บ้าน หน้าก็ไม่ได้แต่ง คือชีวิตที่ผ่านมาเราดูแลทุกคนหมด แต่หันไปข้างหลังไม่มีใครดูแลฉัน เลยไม่คุยกับ
เขา เป็นครั้งแรกที่เราไม่คุย ไม่ต้องการคำตอบ ไม่ต้องการอะไรแล้ว คือแบบให้เขาคิดว่าเราไม่ดีเองให้เราไม่สามารถทำได้เอง” “แต่คุณสามี
ก็ทน ยอมมาก คือวันนั้นอุ้ยหักดิบไม่เอาแล้วไง วันนั้นเขาไปต่างประเทศ 10 วัน ไม่คุยด้วยเลย ช่วงนั้นน้องประมาณ 8 ขวบ คือมันยุ่งขึ้น
หันไปอีกทีเหมือนเราไม่มีใครเลย เหมือนว่าชีวิตฉันหายไปไหน ฉันยังทำงานได้อยู่ ถ้าไม่ไฟต์ตอนนี้ ไม่ต่อสู้เพื่อสิทธิตัวเองตอนนี้ ฉันคงไม่ได้ทำอะไรอีกเลย”
