ชีวิตล่าสุด ‘แบงค์ กฤษฎี’ หลังไร้งานนานร่วมปี
หายหน้าหายตาไปนานพอสมควร สำหรับนักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ‘แบงค์ กฤษฎี พวงประยงค์’ ดารานักแสดงที่เคยได้ฝากผลงาน
ไว้มากมาย อีกทั้งยังก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงมาเกือบ 20 ปี ซึ่งช่วงหลังๆ ‘แบงค์ กฤษฎี’ ก็หายหน้าจากจอละคร อาจจะด้วยนักแสดงที่มีมากขึ้น
ก็ทำให้นักแสดงหน้าใหม่ๆ เข้ามาโชวผลงานกันอยู่เรื่อยๆ เพราะเหตุนี้เองทำให้ ‘แบงค์ กฤษฎี’ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เจ้าตัวต้องงยอมรับ และ
ครั้งนี้ทางทีมงานขอนำภาพปัจจุบัน ‘แบงค์ กฤษฎี’ ในวัย 37 ปี มาให้ได้ชมกัน ทั้งนี้ ‘แบงค์ กฤษฎี’ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงช่วงชีวิตที่ไร้งาน
นานกว่า 2 ปี จำเป็นต้องควักกระเป๋าเอามาใช้จ่าย แต่ด้วยชีวิตที่สุดแสนสมถะของเขาเอง ทำให้เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมายนัก โดย ‘แบงค์ กฤษฎี’
เผยว่า “คนมักจะมองว่าผมถูก เป่า จิน จง ปั้นมาตั้งแต่ยังหนุ่ม คือ ตอนนั้นผมอายุ 19 ปี คือหลายคนเขาอาจจะมาจากโมเดลลิ่งและหลายๆ ทาง
แต่ผมเจอบนรถเมล์ ตอนนั้นมีผู้ช่วยผู้กำกับคนหนึ่งชื่อพี่ต่าย ผู้ช่วยอาตู่ (นพพล โกมารชุน) เขานั่งรถเมล์กลับบ้าน ผมก็นั่งรถเมล์กลับบ้านคันเดียวกัน
เขาก็บอกให้ผมไปแคสต์หน้ากล้องแล้วก็ได้แสดงละครเรื่องแรก คือ แม่อายสะอื้น เป็นเรื่องแรกของชีวิตการแสดงครับ หลังจากนั้นก็มีผลงานต่อมาเรื่อยๆ
เช่น เพลงผ้าฟ้าล้อมดาวก็เล่นของอาตู่อีก แล้วอาตู่ก็คงคิดว่าผมน่าจะถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว ก็คิดว่าผมควรมีสังกัด ก็ให้ผมเล่นกับช่องมากสี และส่วนใหญ่ที่
เล่นละครก็จะได้เล่นละครกับค่ายอาตู่ แล้วก็มีทีมอื่นๆ บ้างประปรายครับ พอหลังจากได้เล่นละครแล้วเรารู้สึกหลงรัก ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่เรารู้สึกว่า
เราก็แอบมีพรสวรรค์ทางนี้ ต้องบอกว่าอาตู่มอบโอกาสดีๆ ให้ผมเยอะแยะมากมายครับ เล่นละครมา 20 กว่าเรื่อง ของเป่าจินจงเกือบ 10 กว่าเรื่องแล้วครับ
เมื่อก่อนผมยอมรับว่าตอนที่อาตู่ปั้นมา ก็มีโอกาสที่จะดังได้จากละครดังๆ หลายๆ เรื่อง แต่ผมตอนนั้นเป็นวัยรุ่นที่ไม่คิดอะไรมาก มีผู้จัดมาชวนเล่นหลายเรื่อง
แต่ผมกลับปฏิเสธไปเยอะ ด้วยส่วนตัวจริงๆ ผมเป็นคนขี้อายมากๆ แต่พอวันนี้ถ้าเกิดเลือกได้ และถ้าจะให้ไปอยู่จุดนั้นก็คงไม่ได้แล้วล่ะ ก็เอาเป็นว่าตอนนี้ก็อยากที่จะเล่น
ละครให้อยู่ในระดับพอมีพอกินและพอใช้ครับ แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง ไม่มีงานเคยคิดว่าจะไปสมัครงานประจำ เพราะไม่มีงานเลย ก็มีบ้างที่คิดจะหยุดทำงานวงการบันเทิง
แต่ด้วยตัวผมเองเป็นคนประหยัดอยู่แล้ว คือเมื่อก่อนผมจะมีช่วงที่เรียกว่า ว่างจนเหนื่อย ช่วงไม่มีงานเลยเกือบ 2 ปี ก็ควักกระเป๋ามาใช้จ่าย ก็พออยู่ได้ จนกระทั่ง
อาตู่ให้โอกาสกลับมาร่วมงานอีกครั้ง จนตอนนี้ความคิดก็เปลี่ยนไป ถือว่าเป็นชีวิตที่มีความสุขมากๆ ครับ ที่ได้ตื่นเช้ามาทำงาน รู้ว่าอีกเดือน สองเดือนข้างหน้ามีงานให้เราทำ”
