‘ต่าย ณัฐพล’ เปลี่ยนไปมากหลังเข้าเลข 4
คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมายาวนานมาก สำหรับนักแสดงคนเก่ง ‘ต่าย ณัฐพล’ หรือ ‘นัฐฐพนท์ ลียะวณิช’ แต่ต้องบอกเลยว่าด้วยความ
มานะอุตสาหะของเขาทำให้ได้ประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ได้ ในวัย 41 ที่ตอนนี้พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักแสดง มานั่งแท่นผู้จัดละคร
รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการอยู่หลากหลายอย่าง อีกทั้งงานด้านการเป็นผู้จัดละครเองก็ไปได้ดีสุดๆ ได้รับการยอมรับมากมายในวงการ นอกจาก
อาชีพดารานักแสดงแล้ว ‘ต่าย ณัฐพล’ เคยรับใช้ชาติด้วยอาชีพทหารมาก่อน ก่อนจะตัดสินใจออกจากราชการ ด้วยเหตุที่สมัยนั้นงานในวงการ
ค่อนข้างเยอะ โดย ‘ต่าย ณัฐพล’ เผยว่า เพราะไม่มีเวลา ติดภารกิจเยอะ อีกทั้งยังติดเรื่องสุขภาพเเเละงาน ทั้งธุรกิจทั้งละคร ตนก็เลยคิดว่าน่า
จะต้องออกก่อน แถมยังบอกอีกว่าจริงๆ ตนก็อยากรับใช้ชาติ เเต่ก็อยากมีเวลาให้เต็มที่กว่านี้ และในปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดี หากใครได้ติดตาม
‘ต่าย ณัฐพล’ ผ่านทางอินสตาแกรม ‘tyenatapol’ หรือ ‘Natapol Liyavanija’ ก็มักจะเห็น ‘ต่าย ณัฐพล’ ในบทของผู้จัด-ผู้กำกับละคร
ที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว โดย ‘ต่าย ณัฐพล’ ก็เคยได้ให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางนี้ แต่ยังไม่วายถูกมองว่าตกถังข้าวสารหรือเปล่า ทั้งนี้ ‘ต่าย ณัฐพล’
เล่าว่า “ถามว่าทำไมถึงเลิกเล่นละคร เพราะว่าได้มาจับงานเบื้องหลังครับ เคยได้มีโอกาสทำเล็กๆ น้อยๆ แล้วเรารู้สึกชอบ เอ็นจอยกับสิ่งๆ นี้ ก็เลย
มาทำรายการช่วยเหลือสังคม จนกระทั่งผันตัวมาอยู่เบื้องหลัง ตอนนั้นเริ่มทำตั้งแต่อายุ 28 ผมว่าถ้าเกิดเราไม่ได้ทำเบื้องหลังตั้งแต่ตอนนั้น เรารู้สึกว่า
เราอายุมากขึ้น รับบทพ่อมั้ย หรือว่าจะต้องปรับไปรับบทยังไง ก็เคยคิดเหมือนกัน นึกภาพไม่ออกดีกว่า ว่าเวลาไปรับบทพ่อแล้วจะเป็นยังไง ด้วยตัว
ผมเองเริ่มทำงานมาตั้งแต่อายุ 19 พอสัญญากับช่องหมดแล้ว เราก็เลยตัดสินใจไม่ต่อสัญญา แล้วก็ตัดสินใจลองยื่นเพื่อที่จะผลิตละครดู ก็ผลิตกับช่องๆ
นึงได้รับการอนุมัติก็เลยเริ่มมาทำเป็นเบื้องหลัง เป็นผู้จัด” เมื่อถูกถามว่าทำไมไม่เลือกอยู่เป็นพระเอกสบายๆ โดย ‘ต่าย ณัฐพล’ เล่าว่า “ไม่ครับ
จริงๆ ผมสนุกกับการเป็นนักแสดงนะครับ การแสดงเป็นอะไรที่ท้าทาย แต่งานเบื้องหลังเหมือนเราขยันมาก เราก็มีงานมาก ทำงานได้เยอะ เหนื่อยก็พักได้
ผมว่าคนเรามันเป็นช่วงชีวิต นักแสดงก็เป็นได้ตามวัย อายุงานมันค่อยๆ หมดตามปกติ แต่ก่อนผมไม่ได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับ บางคนอาจมองว่าผมถือตัว
แต่เป็นคนสื่อสารกับคนยาก ผมไม่รู้จะคุยอะไร ผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่ถ้าเกิดเวลาผ่านไปแล้วได้รู้จักกันจริงๆ ผมก็จะเป็นตัวของเราเอง เป็นคนไม่มีอะไรจริงๆ”
