ภรรยา ‘พอล ภัทรพล’ ทิ้งวงการไปอยู่กัน 2 คน
ห่างหายจากหน้าจอทีวีไปนานมากๆ เลยทีเดียว สำหรับพระเอกลุคอบอุ่น ‘พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์’ หลังจากตัดสินใจเกษียณวงการ
บันเทิงในฐานะนักแสดงก็ผันตัวไปเป็นเจ้าของกิจการหลายอย่าง อีกทั้งยังเป็นนักสร้างแรงบันดาลให้คนรุ่นใหม่ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ‘พอล ภัทรพล’
ก็ไม่โสดแล้ว เพราะหลังจากคุกเขาขอ ‘ฟอว์น ไปยดา’ แฟนสาว ที่คบหาดูใจกันนาน 5 ปี ก็ตัดสินใจขอครองรักใช้ชีวิตคู่กันตลอดไป
อีกทั้งยังไร้แพลนทายาท หวังจะอยู่กันเพียง 2 เรา แต่ถึงอย่างนั้นจะร่ำรวยเป็นเศรษฐี ‘พอล-ฟอว์น’ ก็ส่งต่อรายรับให้กับเยาวชนที่ต้องการ
ความช่วยเหลืออีกกว่า 20 ชีวิต โดย ‘พอล-ฟอว์น’ ก็ได้เปิดใจถึงเส้นทางรักครั้งนี้ไว้ว่า “จริงๆ ผมว่าตั้งแต่ผมคบกับเขา ก็คิดมานานแล้วว่า
คนนี้แหละที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตเลย เพียงแค่หาจังหวะว่าเมื่อไหร่จะได้ขอเขาแบบเป็นทางการ ตอนที่เขาขอก็ตื่นเต้นเนอะ จริงๆ
เหมือนเราแอบคิดอยู่แล้วว่าวันนั้นอาจจะมี แต่ก็อาจจะไม่ คือที่พอรู้ก่อนเพราะเราได้มีการคุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ และเขาก็มีคุยกับคุณพ่อคุณแม่เราอยู่แล้ว
คือตื่นเต้นนะครับ ตอนแรกคิดว่าสบายมาก เรื่องแบบนี้ทำมาหลายครั้งแล้ว ผมหมายถึงเล่นละครนะครับ ตอนเราเป็นพระเอกในทุกๆ เรื่องส่วนใหญ่ก็จะ
มีฉากขอแต่งงานในทุกรูปแบบ เราเลยคิดว่าเรามีโอกาสได้ซ้อมมาเยอะกว่าหนุ่มคนอื่นๆ แต่พอวันจริงปุ๊บผมยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดกล่องแหวนทางไหน
ทุลักทุเลพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ ถามว่าทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ เขามีหลายคุณสมบัติครับ แน่นอนเลยคือเขาเป็นคนดี จิตใจดี
ไม่เคยพูดถึงใครไม่ดีเลยซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เขาเป็นคนห่วงใยคน พูดถึงเพื่อนในทางที่ดี ปฏิบัติกับพ่อแม่อย่างดี เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนรอบตัว
เขาเล็กๆ น้อยๆ เขาดูแลหมด เขาเป็นคนที่คอยสนับสนุนเราตลอดไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะดีจะแย่เขาก็ยังอยู่กับเรา ผมจะชอบเรียกเขาว่า Sunshine
ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจะมีแสงสว่าง เวลาอยู่กับเขาเรารู้สึกเหมือนช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นแสงสว่างให้เรา” โดย ‘ฟอว์น ไปยดา’ เล่าว่า “เขาเป็นคนหนึ่ง
ที่มีหัวใจที่ดี เขาเป็นผู้ให้ ฟอว์นชอบที่เขาเป็นคนสุภาพ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม” นอกจากนี้ฝ่ายชายก็เผยว่า ประทับใจที่เขาเป็นผู้หญิงที่เก่ง
หาตังค์เองได้ด้วยตัวคนเดียว แถมยังช่วยกันส่งเสียเลี้ยงดูเยาวชน โดย ‘พอล ภัทรพล’ เล่าว่า “จริงๆ เพราะทั้งคู่ไม่ได้คิดว่าจะมีทายาท การทำหน้าที่พ่อแม่ยิ่งใหญ่มาก
เราทำไม่ได้ ซึ่งการเลี้ยงน้องๆ ทั้ง 20 คนนี้คือเริ่มจากตอนเข้าวงการใหม่ๆ ก็ได้ร่วมกันกับมูลนิธิต่างๆ ที่คอยช่วยเหลือเรื่องนี้ เลยเลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่นั้น ตอนนี้ 20 คนได้ ให้แต่ละคนหลายสถานที่ ห้าร้อยถึงหนึ่งพันต่อเดือน”
