บันเทิง
บ้าน ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ หลังทิ้งวงการตามสามีไป
บ้าน ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ หลังทิ้งวงการตามสามีไป
หายหน้าจากวงการบันเทิงไปนาน สำหรับอดีตนางเอก ‘เอ๊ะ ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์’ หลังตัดสินใจห่างวงการบันเทิงไปใช้ชีวิต
กับ ‘ดอม โดมินิค วินเซ็นต์’ สามีชาวต่างชาติ ที่อายุน้อยกว่า 5 ปี และได้ให้กำเนิดทายาทบุตรชายด้วยกัน 1 คน คือ ‘น้องโรนิน’
หนุ่มน้อยวัยกำลังโต นอกจากนี้ ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ ก็ได้เปิดใจว่าตัดสินใจทิ้งความเป็นตัวเองทุกอย่าง ทั้งกิจการที่เคยทำ และอาชีพนักร้อง-นักแสดง
แล้วตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ โดย ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ เล่าว่า “ไม่เชิงตามสามีไป เป็นเพราะเรามีครอบตรัวด้วย อยากให้ น้องโรนิน อยู่ครบ
เป็นครอบครัว ไม่ทันคิดว่าเราทิ้งอะไรไปบ้าง และเราเชื่อระบบการศึกษาที่อเมริกา ก็มีคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ เพราะไม่ได้อยู่ข้างๆ ด้วย แต่อยู่
ต่างประเทศก็ดี ตอนที่ตัดสินใจย้ายไปน่าจะประมาณปี 2014 ประมาณ 7 ปีค่ะ แต่ช่วงแรกที่ไปก็ยังมีทำอะไรบ้างนะคะ ไม่ได้ถึงกับออกจากวงการ
บันเทิงไปเลย แต่ช่วงที่มีจำได้ว่าช่วงที่น้องโรนิน เกิดมาขวบกว่าๆ ก็ยังมีไปเล่นรับเชิญอยู่นิดหน่อย เพราะว่าน้องเกิดเมืองไทย แล้วก็พอเขา
เกิดมาได้สักประมาณ 3 เดือนแล้วหลังจากนั้นเราก็พักยาวเลยค่ะ ที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ เพราะเราแต่งงานกับฝรั่งค่ะ แต่งงานกับสามี
ชาวต่างชาติ เขาเป็นอเมริกันเต็มตัวเลย และเพราะด้วยงานของสามีด้วยค่ะ อแต่งงานก็ได้ย้ายกลับไปที่นิวยอร์กด้วยงานแล้วพอย้ายไปได้สักหนึ่งปี
เราก็ท้องแล้วก็ไปอยู่ที่นั่นยาวเลย” เมื่อถูกถามถึงงานในวงการ ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ เผยว่า “ก็อยากนะคะแต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่สามารถ
ออกไปทำงานข้างนอกไม่ได้เลยอยู่แต่ในบ้านแล้วมันก็มีความเหงาเกิดขึ้นเราก็มาคิดว่าเราทิ้งอะไรไป งานเราทำไมเราไม่กลับมาทำเพราะมันคือสิ่งที่เราทำได้ดี”
และก่อนหน้านี้สำหรับชีวิตความรักของ ‘เอ๊ะ ศศิกานต์’ นั้นเคยคบหากับ ‘เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์’ นักร้องหนุ่ม ที่อดีตเคยคบหากันยาวนานกว่า 12 ปี
ก่อนจะตัดสินใจแยกทางกันในที่สุด โดยทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจถึงการยุติและปิดฉากรักลง ถึงแม้คิดจะแต่งงานกันแล้วก็ตามโดย ฝ่ายชายเผยว่า “สถานะของเราทั้ง 2 คน
เปลี่ยนจากแฟนมาเป็นเพื่อนรักกัน จากการที่เรา 2 คนได้ตกลงคือมีอีกหลายเรื่องราวที่เรายังเข้ากันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทัศนคติ ความคิด การใช้ชีวิต อาจจะเป็นเ
พราะการเลี้ยงดูที่ต่างกัน หลายคนก็สงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้ยาวนานถึง 12-13 ปี จริงๆแล้วก็พยายามแก้ไข ทำทุกวิถีทาง ปรับจูน คุยกัน หาที่ปรึกษา
พยายามจะแต่งงานเพื่อแก้ปัญหา สุดท้ายแล้วก็คงไม่อาจฝืนความจริงได้ เราก็เลยคุยกันและเห็นตรงกันว่าการที่เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมันดีกว่าที่เราแต่งไปแล้วต้องแยกทางกัน”
