บันเทิง
ปัจจุบัน ‘เปิ้ล ชไมพร’
ผู้ชายไม่ยอมเลิก อยากเก็บไว้ทั้ง 2 คน
ปัจจุบัน ‘เปิ้ล ชไมพร’ มีเหตุผลที่หายไป ไม่ใช่คนตกอับ
นักแสดงหน้าต่างสัญชาติ ที่โด่งดังมากๆ ในยุค 90 ไม่มีใครไม่รู้จัก “เปิ้ล ชไมพร สิทธิวรนันท์” นางเอกสาวที่โด่งดังสุดๆ
หน้าตาสวยหวานคล้ายกับตุ๊กตา มีผลงานละครไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง และผลงานล่าสุดที่ เปิ้ล ชไมพร เพิ่งร่วมแสดงจบไปไม่นานก็คือบท
พิกุล แม่ของนางเอก (โบว์ เมลดา)ในเรื่อง มนต์รักหนองผักกะแยง นั่นเอง โดย เปิ้ล ชไมพร เคยเปิดใจเอาไว้ว่า
กว่าจะได้เข้ามาสู่เส้นทางบันเทิงสมัยก่อนเป็นเรื่องยาก ต้องผ่านมาจากการเป็นตัวประกอบก่อน เดินไปเดินมาวันละ 200
ซึ่งตอนนั้นเธออยู่ประมาณ ม.3 จากนั้นจึงมาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา และก็เริ่มมีผลงานเรื่อยๆ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง
ซึ่งหลังจากที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้ราว 10 ปี ชื่อของ เปิ้ล ชไมพร ก็ค่อยๆ ห่างหายไปจากหน้าจอไปทีละน้อย
เนื่องจากปัญหาสุขภาพ และปัจจุบันอดีตนางเอกสาวก็ได้ผันตัวไปทำงานด้านความงามเป็นหลัก
แต่ก็มีรับงานละครบ้างเล็กน้อย ซึ่ง“เปิ้ลเป็นคนต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับแม่ พ่อจะไปทำงานต่างประเทศ ตัวเองก็เหมือนเป็นคนหลงห่างกับพี่ประมาณ 10 ปี
ตอนอ่อนๆเราก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อเจ้าชู้ พอย้ายมากรุงเทพฯ พ่อก็จะมีผู้หญิงคนนู้น คนนี้ ตอนนั้นประมาณ 10 ขวบ เราเห็นสภาพแม่แย่มาก
เขาก็แยกทางกัน หลังจากนั้นเราก็ตั้งปณิธานไว้ว่าฉันไม่ชอบผู้ชายคนนี้มาก” เห็นว่าตอนที่เป็นนางเอกดังมาก ยอมทิ้งอนาคตเลย “ด้วย แต่ก็มีหลายปัจจัย
เราทำงานมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ชีวิตวัยอ่อนหายไป รู้สึกกดทุกอย่างมันก็เลยระเบิด พอมีแฟนปุ๊บก็เฟดดีกว่า มันเหนื่อยด้วย มีแฟนด้วย
สุขภาพไม่ดีด้วย ก็เลยถอย” “ตอนนั้นอายุ 20 ปีต้นๆ มีแฟนแล้วรักเขามาก ย้ายไปอยู่กับเขา 3 ปี ครึ่งปีแรกแฮปปี้มาก พอ 2 ปีครึ่ง
เขาเริ่มเจ้าชู้มันก็ไปย้ำปมเดิมของเรา จนล่าสุดเขาไปเจอผู้หญิงคนนึงแล้วเหมือนจะจริงจัง ปีใหม่เราไปเที่ยวกับที่บ้านแล้วเขาไปที่ยวเชียงใหม่กับผู้หญิงคนนั้น
พอผ่านไป 3 ปี ทุกอย่างมันรุมเร้า เหตุการณ์หลายๆอย่างมันทำให้เราเสียใจก็เลยตัดสินใจเลิก เราร้องไห้
ผู้ชายก็ร้องไห้ไม่อยากเลิก อยากจะเก็บไว้ทั้งสองคน พอเราเลิกเราก็ไม่กล้ากลับเข้าบ้านไปอยู่อพาร์ตเมนต์
