เรือนหอ ‘ลิฟท์ สุพจน์’
ขึ้นชื่อว่า ลิฟท์-ออย คือนักร้องคู่หูดูโอ้ที่เขย่าวงการเพลงไทยในยุค 90 หลายคนต้องคุ้นหน้ากันดีพาไปเคาะประตูขอดูบ้านของลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ
พร้อมกับอัพเดทชีวิตความเป็นอยู่หลังจากแต่งงานกับ หญิง นราวัลย์ จันทร์เจริญ ผู้ประกาศข่าวสาวและน้องพราว ทายาทเพียงคนเดียว บ้านที่พาไปชมเป็น
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา โครงการตั้งอยู่ย่านรามอินทรา ที่ลิฟท์ซื้อไว้เมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีคุณพ่อและคุณแม่ของเขามาอยู่ด้วย
ถ้ามองจากภายนอกแล้วการตกแต่งบ้านก็ไม่เน้นอะไรมาก เพราะดูเรียบหรูอยู่แล้ว ส่วนภายในก็ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นมุมออกกำลังกาย โซนโต๊ะทานอาหาร
และห้องนอนที่แต่งแบบเรียบง่าย ใช้นอนด้วยกันทั้ง 3 คนเหมือนบ้านทั่ว ๆ ไปนอกจากจะพาชมบ้านแล้ว ลิฟท์ ยังขออวดรถมอเตอร์ไซค์คันหรูราคาเหยียบล.
ที่เคยโดนภรรยาสั่งห้ามไม่ให้ขับ! แต่ทุกวันนี้้เวลาจะออกทริปไปไหนก็จะมีภรรยาไปด้วยโดย ลิฟท์ เผยว่า “บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอครับ อยู่มาตั้งแต่แต่งงาน ก็อยู่ด้วย
กันทั้งหมด 5 คน มีพ่อ-แม่ผม และครอบครัวเรา 3 คน พ่อ-แม่-บุตร ก่อนจะพูดถึงเรื่องราวครอบครัว โดยหนุ่มลิฟท์ เปิดใจว่า ถ้าย้อนกลับไปสมัยหนุ่ม ๆ ตอนที่ออก
ทัวร์คอนเสิร์ต ก็จะมีน้อง ๆ ผู้หญิงตามตลอด ตามถึงขั้นว่ามาเปิดโรงแรมห้องข้าง ๆ มาเคาะหน้าประตูห้องก็เคยมี และช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ผมตัดสินใจคบกับหญิงอย่างเปิดเผย
ช่วงที่คบกันได้ 2-3 เดือน ความมากรักในตัวก็กำเริบ เพราะผมรู้สึกว่าเบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์เลยแอบไปมีกิ๊กอยู่ที่เชียงใหม่รู้สึกว่าเบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์เลยแอบไปมี
กิ๊กหญิงเองเขารู้สึกว่าผมเปลี่ยนไป เพราะเขาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูผมไปซะหมด เลยทำให้เขาจับผมได้แบบคาหนังคาเขา เพราะผมนัดน้องไปที่คอนโดเพื่อน สุดท้ายผมก็ต้องเลือก
สิ่งที่ถูกต้อง แต่มันเริ่มมีจุดเปลี่ยนเพราะบังเอิญเจอน้องคนที่อยู่เชียงใหม่ เขามาสะกิดข้างหลัง แล้วน้องเขาก็เรียกสามีขาเป็นยังไงบ้างคะ พยายามพูดให้หญิงได้ยินคือหญิงเขา
ยอมให้ผมซื้อกินดีกว่าที่จะมีเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ ผมเองก็รู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ พูดต่ออีกว่า12 ปีที่แล้ว แต่งงานตอนอายุ 34 เป็นช่วงที่เรากำลังโด่งดัง แล้วก็ตัดสินใจแต่งงานมี
ครอบครัว ถามว่าเร็วไหม ด้วยอายุก็ไม่ได้เร็วแล้ว ตอนนั้นที่แต่งงานเร็วเพราะอยากมีบุตรเร็ว มีความคิดแบบอายุ 60 ยังเที่ยวกับบุตรได้โชคดีที่เราปรับตัวกันง่าย ก่อนแต่งงานกับ
หลังแต่งงานเหมือนกัน เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยมีปัญหาในการปรับตัวกันมากเท่าไหร่ เพราะเราใช้ชีวิตไปในทิศทางที่เหมือนกัน คุยกันง่ายๆ แมนๆ ไม่ได้ปล่อยให้เราคิดเอง ส่วนน้องพราว 10 ขวบแล้ว
ตอนเล็กเขาจะหน้าเหมือนผมมาก แต่ตอนนี้เขาหน้าเหมือนแม่เขามาก มีแก้ม มีคาง ยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือนแม่ ส่วนนิสัยเหมือนผม ขี้เล่น เป็นคนอารมณ์ดี เอาตัวรอดได้ ส่วนการเลี้ยง เราก็ปล่อยให้เขาเรียนรู้
