ภาพล่าสุด ‘รักชาติ ศิริชัย’
เรียกว่าแฟนๆ ฮือฮากันยกใหญ่หลังอดีตนักร้องลุกทุ่งชื่อดัง อย่าง “รักชาติ ศิริชัย” ที่หลายๆ คน คุ้นหูกับบทเพลงต้นฉบับ
ฉันทนาที่รัก ที่ล่าสุดผันตัวมาขายลาบก้อยสู้ชีวิตเพื่อเลี้ยงครอบครัวพร้อมทั้งได้เปิดใจนักร้องลุกทุ่งชื่อดังหลังหันมาเป็นพ่อค้า
ขายลาบก้อยว่า ในช่วงสถาณการณ์หนีจากกรุงเทพฯ ขึ้นมากมลาไสย มาขายลาบก้อยที่นี่ ก็ได้ภรรยาและลุกชายช่วยกันขาย
โดยขายที่หน้าบ้าน ซึ่งลุกค้าร่วมอุดหนุนค่อนข้างดี ก็ขอบคุณมิตรรักแฟนเพลง ที่ยังจำกันได้ ซึ่งในอนาคตถ้าการค้าขายดีขึ้น
อาจจะเปิดร้านชื่อรักชาติลาบก้อย ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน เพลงฉันทนาที่รักของ รักชาติ ศิริชัย ถือเป็นเพลงใน
ดวงใจของชาวบ้าน ที่ว่าด้วยความรักของชายบ้านนอกคนหนึ่ง ที่เขียนหนังสือไม่ดี ถ้อยคำวาจาไม่หวาน ความรู้ไม่ได้มาก
แต่บรรจงและตั้งใจเขียนจดหมายส่งไปให้สาวโรงงานทอผ้าชื่อฉันทนา แทนความรักความห่วงใยจากคนไกลที่มอบให้กัน และเพลง
นี้ก็กลายเป็นเพลงแจ้งเกิด และเป็นเพลงคลาสสิกลุกทุ่งไทยจวบจนปัจจุบันรักชาติ กล่าวว่า หลังจากยุคเพลงลุกทุ่งลดความนิยมลง
ตนก็ยังรับงานอยู่ เช่น ตามร้านอาหาร งานมงคล งานสังคมต่างๆ พอเกิดสถาณการณ์ได้ส่งผลกระทบกับคนในวงการบันเทิง
และร้านค้าร้านอาหารที่เคยไปรับงานร้องเพลง ตนได้เปิดร้านขายอาหารตามสั่งหลายแห่ง ล่าสุดที่กรุงเทพฯ แต่ก็ไปไม่รอด
รักชาติ ศิริชัย ชื่อจริงคือ นายบุญช่วย จิวิสาย เป็นเจ้าของบทเพลงชื่อดังมากมาย อาทิ “ฉันทนาที่รัก” “รักข้ามคลอง”
“ฉันทนาใจดำ” และ “สุขเถิดบัวคำ” ความดังของเพลงฉันทนาที่รัก ทำให้คำว่า “ฉันทนา” ถูกใช้แทนความหมายของเหล่าบรรดาสาว
โรงงานจนถึงปัจจุบันหลายคนกระซิบกระซาบกันว่า บุคลิกและน้ำเสียง เหมือนนักร้องมืออาชีพ โดยสุ้มเสียงของพ่อค้าขายลาบก้อยรายนี้
ฟังออดอ้อน หวานหยดย้อย ซึ่งเพลงที่เขานำมาร้องนั้นเป็นเพลงลุกทุ่งยุคเก่า ที่หาฟังยาก แต่เมื่อได้ยินแล้วประทับใจ จนอดใจไม่ได้ที่
จะหยุดฟัง และขอเพลงขณะยืนรอเมนูลาบก้อย ถือเป็นรูปแบบการขายและวิธีการเรียกลุกค้าอีกแบบหนึ่ง ตั้งแผงขายอาหารอีสานประเภทลาบ
ก้อย และต้มเนื้อวัว ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลกมลาไสยบริเวณมุมทางออก 4 แยกไฟแดง ซึ่งมีลุกค้ายืนรอและรับฟังเพลงที่เขาร้องคลอไปด้วยขณะปรุงอาหารให้กับลุกค้า
