บันเทิง
อดีตสามี ‘น้อง พรสุดา’
อดีตสามี ‘น้อง พรสุดา’
ต้องบอกเลยว่ามีชื่อเสียง โลดแล่นในวงการมานานเลยทีเดียว สำหรับ น้อง พรสุดา ต่ายเนาว์คง นางเอกยุค 90-นักแสดงมากฝีมือ ที่มีชื่อเสียงจากบทนางเอกในละครของค่ายกันตนา
และยังเคยเป็นพิธีกรรายการรวมทั้งเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงอีกด้วย ตอนนี้เธอยังรับงานแสดงละครอยู่ พร้อมทั้งยังเป็นผู้จัดละครและครูใหญ่ทำหน้าที่สอนการแสดงประจำโรงเรียน
โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ตัดสินใจแต่งงานกับสามีชาวต่างชาติ ดีกรีเป็นถึงนักการฑูตประจำประเทศบรูไน ก่อนที่ในเวลาต่อมาเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดว่าตอนนี้ได้เลิกกันกับสามีไปเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นทำไมตัดสินใจแต่งงาน? น้อง พรสุดา : “คือตอนนั้นเราอายุ 30 แล้ว และยุคนั้นผู้หญิงอายุ 20 กว่าก็ต้องแต่งงานแล้ว และเพื่อนๆ ก็ทยอยแต่งงาน
ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างมาก ก็เลยคุยกับเขาว่าถ้าอยากแต่งงานเราก็ยินดี แต่เราไม่คิดว่าจะต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับครอบครัว เพราะตอนนั้นเขากำลังจะย้ายกลับประเทศ
เขาก็ให้เราตัดสินใจ คือถ้าเราไม่แต่ง เขาก็กลับประเทศเขาไป แล้วเราก็ทำงานของเราไป แต่ถ้าแต่งเราต้องเลือก” ทราบข่าวว่าตอนนี้หย่าแล้ว หย่าเงียบๆ มา 5 ปี ทำไมถึงหย่า?
น้อง พรสุดา : “ค่ะ ก็เหมือนผู้ใหญ่คุยกันว่าเราอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว มันมีเหตุผลหลายอย่าง เขาก็เข้าใจถึงสถานการณ์ของเรา เราก็บอกเขาว่าเราคงไม่สามารถเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบ
ที่จะดูแลเขาตลอดไปไม่ได้ เพราะเราต้องการกลับมาทำงานเหมือนเดิม ซึ่งเขาก็บอกเราว่าก็ได้ ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับเรา แต่เขาขอกับเราว่าเขาขอแต่งงานกับภรรยา
อีกคนได้ไหม คือตามหลักสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สามีสามารถแต่งภรรยาได้ 4 คน แต่มีข้อแม้ว่าภรรยาแรกต้องอนุญาต คือมันจะมีกรณีที่ภรรยาป่วยดูแลสามีไม่ได้ สามีอยากมีทายาทก็จะ
ขอภรรยา ถ้าภรรยาอนุญาตเขาก็จะไม่บาป แต่บางครอบครัวก็แต่งเลย ก็แล้วแต่ พอเขามาคุยกับเรา เราก็เลยขอเลิกดีกว่า เพราะเราก็ไม่ชอบแชร์ของกับใคร เราตั้งใจว่าถ้ามาอยู่เมืองไทย
เราก็เริ่มทำงานละครให้เต็มที่ ประกอบกับคุณแม่ไม่สบาย แล้วที่ผ่านมาเราก็ไม่ค่อยได้ดูแลท่าน ก็เลยบอกเขาว่าเราอยากอยู่ที่ไทยถาวร แล้วเราก็ขอให้เขาประกาศหย่าให้เราหน่อย เพราะเรา
คงไม่กลับไปแล้ว คือตามหลักสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าสามีประกาศหย่าก็หมายความว่าสามีไม่ต้องการภรรยาคนนี้แล้ว ซึ่งกระดาษใบนั้น สามีสามารถไปเดินเรื่องเองได้” พอสามีมาขอ
แต่งงานอีกคน ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร? น้อง พรสุดา : “เราทราบอยู่แล้วว่าเขาสามารถมีได้ แต่ตอนที่เราศึกษาสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ การที่สามีจะมีภรรยาได้นั้น ต้องได้รับการยินยอมจาก
ภรรยาแรก ตอนที่เขามาขอใจเราหล่นไปเลย แต่เราก็ได้แต่คิดว่ายังดีกว่าเขาไปแอบทำ อย่างน้อยเขาก็ยังมาบอกเรา ที่ผ่านมาเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี อย่างน้อยเราได้ใช้ชีวิตกับเขา
มีประสบการณ์กับนานาประเทศ ซึ่งถือเป็นกำไรชีวิต แต่ชีวิตวันต้องเลือก พอมาถึงที่สุดแล้วเราก็เลือกเป็นบุตรกตัญญูดีกว่า คือเราก็คิดว่าการมีสามีกับการมีแม่ อย่างไรเราก็ต้องเลือกแม่ก่อน”
