บันเทิง
ความสัมพันธ์ ‘มานพ-กวาง’
ความสัมพันธ์ ‘มานพ-กวาง’
คิดว่าเป็นเรื่องที่หลายคนก็เพิ่งรู้ หลังจาก อดีตนางเอกดัง “กวาง กมลชนก” ได้โพสต์ภาพคู่กับ “มานพ อัศวเทพ” ดาราอาวุโส ซึ่งมีผลงานที่หนังและละครมากมาย พร้อมเฉลยความสัมพันธ์ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน
โดยระบุข้อความว่า “คุณมานพ อัศวเทพ อดีตพระเอกภาพยนตร์ที่โด่งดังจากเรื่อง”ชู้”สมัยกวางยังเล็กๆ พอกวางเข้าวงการเแสดงหนังเรื่องแรกก็ได้เล่นเป็นบุตรสาวท่าน พอมาเล่นละคร”คู่กรรม”ก็ได้เป็นพ่อบุตรกันอีก ภาพนี้จากละคร ”ยอดตำรวจหญิง”
…จะมีกี่คนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วท่านคือคุณลุงแท้ๆของกวางนั่นเองค่ะ #คุณลุงของกวางหล่อตลอดกาลค่ะ #คิดถึงคุณลุงยะจังเลยค่ะ” สำหรับ มานพ อัศวเทพ มีชื่อจริง วิริยะ จุลมกร (จึงมีชื่อเล่นว่า ยะ) เกิดปี 2477 เป็นบุตรคนที่ 7
ของนายวิเวก-นางลมัย จุลมกร ชาวชลบุรี เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนประจำจังหวัดชลบุรี จนจบเมื่ออายุ 18 ปี จากนั้นมาเรียนต่อที่โรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบจนได้ยศ ย้ายมาประจำอยู่กองบัญชาการมหารสูงสุด จนได้ยศพันจ่าเอก
ในปี 2505 ได้พบสนาน คราประยูร ผู้กำกับชื่อดังที่ร้านตัดผม ด้วยความที่เป็นนักเพาะกายมาก่อน จึงหุ่นดี สูง 177 ซ.ม.น้ำหนัก 68 ก.ก. อก 42 นิ้ว ลำแขนวัดรอบ 16 นิ้ว เรียกว่าเป็นพิมพ์นิยมของหุ่นพระเอกหนังไทยในยุคนั้น
สนานจึงชวนมาแสดงหนัง โดยเริ่มจากการเป็นพระรองประชันกับมิตร ชัยบัญชา และนางเอกตรึงใจ วิไลลักษณ์ ใน นางสมิงพราย (2506) โดยใช้ชื่อในการแสดงว่า นาวิน เทพโยธี มานพ อัศเทพได้เป็นพระเอกเต็มตัวคู่กับ
อมรา อัศวนนท์ใน พิชิตทรชน (2507) หนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เลยกลับไปเป็นนักแสดงประกอบต่อ มีผลงานเช่น เพชรน้ำผึ้ง (2508), สุดแผ่นดิน (2510) ในปี 2512 พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
แห่งอัศวินภาพยนตร์ได้ติดต่อให้ไปเป็นพระเอก ละครเร่ คู่กับสุทิศา พัฒนุช นางเอกใหม่ที่ท่านเพิ่งปั้นมาจนดังจาก เป็ดน้อย (2511) และยังมีดาราหน้าใหม่บนจอเงิ นอีก 3 คนคือสายัณห์ จันทรวิบูลย์, จารุวรรณ ปัญโญภาส
และดาราทีวีชื่อดังกนกวรรณ ด่านอุดมร่วมแสดงด้วย และท่านได้เปลี่ยนชื่อในการแสดงให้ใหม่ว่า มานพ อัศวเทพ เนื่องจากพระเอกในเรื่องนี้ต้องรำไทยเป็น เขาจึงต้องฝึกรำกับครูกฤษณา ภักดีเทวา เป็นเดือนๆ
ละครเร่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก (ดวงของมานพจริงๆที่จะได้เป็นพระเอกเรื่องนี้เพื่อที่จะเป็นบันไดทอดไปสู่ความสำเร็จในอนาคต เพราะผมว่าเป็นตัวเลือกที่แปลกมากที่เอาพระเอกหุ่นนักเพาะกายมารำละคร) หลังจากละครเร่
มานพก็กลับไปเป็นพระรองหรือนักแสดงประกอบตามเดิม มีผลงานเช่น เรารักกันไม่ได้ (2513), หวานใจ (2513), คนใจเพชร (2514) ในปี 2515 เปี๊ยกโปสเตอร์ ก็ให้มานพเป็นพระเอกอีกครั้งใน ชู้ โดยประกบกับ
กรุง ศรีวิไล พระเอกใหม่ในขณะนั้น ว่ากันว่าบทของเขาในเรื่องนี้ฉิวเฉียดที่จะทำให้เขาคว้าตุ๊กตาทองนำชายไปครอง แม้ว่าเปี๊ยกโปสเตอร์จะไม่สามารถทำให้มานพคว้ารางวัลตุ๊กตาทองจาก ชู้
ได้ แต่อีก 4 ปีต่อมา ในปี 2519 เปี๊ยกโปสเตอร์ได้มอบบทเด่นให้มานพอีกครั้งใน เงาราหู และคราวนี้ไม่พลาด มานพคว้ารางวัลตุ๊กตาทองจากการกำกับของเปี๊ยกโปสเตอร์ได้ในที่สุด แต่เป็น
สาขาสมทบชายจาก เงาราหู (2519) มานพกลายเป็นนักแสดงสมทบยอดฝีมือและมีผลงานแสดงมากมายเนิ่นนานต่อมาอีกหลายสิบปี เช่นทิวาหวาม (2517), ซำเหมา (2516), ธิดาพญา
ยม (2517)
สามปอยหลวง (2517), ท้ามฤตยู (2519), ดับสุริยา (2519), ขุนศึก (2519) ฯลฯ มานพรักความเป็นลู กประดู่มาก เขาเคยพูดว่า ไม่ว่าจะรุ่งโรจน์ในทางไหน เขาก็จะไม่ออกจากทหารเรือ
