บันเทิง
ล่าสุด ‘เอกรัตน์ สารสุข’
ล่าสุด ‘เอกรัตน์ สารสุข’
เป็นอีกหนึ่งพระเอกผิวเข้มที่ห่างหายไปจากวงการไปนาน สำหรับ “เอกรัตน์ สารสุข” ที่ล่าสุดปัจจุบันเขาทำกิจการส่วนตัว ทำเกี่ยวกับจิวเวลรี่ “แบรนด์ Augusty”
เปิดตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งทำมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดย “เอกรัตน์ สารสุข” ฝากผลงานทั้งละครและภาพยนต์มามากมาย ไม่ว่าจะเป็น จันดารา,
อกธรณี , ทัดดาวบุษยา , แรงรัก แรงริษ ยา , แฝดล่องหน ,เปรตวัดสุทัศน์ ก่อนจะปิดท้ายกับละครเรื่อง บ่วงหงส์ และหันหลังให้กับวงการในที่สุด
วันนี้จะพาทุกคนไปชมภาพล่าสุด “เอกรัตน์ สารสุข” จะเป้นอย่างไรบ้างไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ และก่อนหน้านี้ ได้มาเปิดผ่านสื่อดังอย่างไทยรัฐถึงชีวิตของเขา
อะไรทำให้ตัดสินใจหันหลังให้วงการ? “ที่เลิกเล่นละคร เพราะสมัยก่อนผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นตัวเองสูง คิดอะไรด้านเดียว ไม่หลากหลาย ตอนนั้น
อายุ 29 เล่นละครเรื่อง มาทาดอร์ ก็ประกาศว่าจะลาวงการตอนอายุ 32 เพราะผมรับไม่ได้ที่จะต้องอายุ 30 แล้วต้องมารับบทเป็นพ่อ คือยอมรับว่าตอนนั้นเรายัง
เด็ กและคิดด้วยอัตตา ถ้าจะให้เป็นอย่างนั้น เลิกเล่นดีกว่า และมันเหมือนบทมาถึงทางตัน ไม่มีบทแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้เล่นแล้วพอถึงเวลาที่เรากำหนดไว้
ก็ต้องทำตามที่พูดเอาไว้ แล้วก็ออกมาทำอย่างอื่น แม้ผู้ใหญ่จะเสนอบทใหม่มาให้ แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะบทที่ได้มาไม่ได้เป็นพระเอก ตอนนั้นก็ไม่ฟังคำทัดทาน
ของใครด้วย เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ผมเป็นคนมีความเป็นตัวเองสูง มีจุดยืนแบบโง่ๆ การทำงานในวงการบันเทิงเมื่อถึงจุดนึงเราต้องยอมรับการเปลี่ยน
แปลงแล้วเดินต่อไป กับอีกจุดนึงคือไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงแล้วเลิก เลิกแล้วมานั่งค้นหาตัวเอง พอถึงจุดนึงก็จะมานั่งคิดถึงงานในวงการบันเทิง อย่างผมตอนนี้
ถ้าจะกลับไปทำงานมันต้องลดน้ำหนักก่อน เพราะอ้วนๆ อย่างนี้ไปทำไม่ได้หรอก ไปทำก็เสียชื่อเปล่าๆ มันไม่มีบทสำหรับคนอ้วนในเมืองไทย ตอนที่ออกมาจาก
วงการใหม่ๆ ก็ยังมีคนติดต่อมานะ แต่ผมก็บอกเค้าไปว่าไม่อยากจะทำลายสิ่งที่สร้างขึ้นมา อยากให้คนจดจำในมุมของพระเอก แต่เราลืมไปว่าในเมืองไทยไม่มี
ตำนาน คนค่อยๆ ลืมเราไปเพราะสุดท้ายมันก็แค่ชื่อเสียงที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แรกๆ ผมก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ที่หลงระเริงไปกับชื่อเสียงบ้าง แต่พอเวลา
ผ่านไป ก็เริ่มปรับตัวและอยู่กับมันได้ ไม่ได้คิดว่าตัวเองโด่งดัง หรือว่าเรียกเรตติ้งได้ เข้าใจมากขึ้นว่าการทำงานมันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน จะดังได้
ก็ต้องมีนางเอกที่ร่วมแสดง ผู้กำกับ เพื่อนนักแสดงคนอื่นๆ หรือว่าจะเป็นบทประพันธ์ หลายๆ อย่าง จะเอาตัวเราเป็นตัวเรียกเรตติ้งคนเดียวคงไม่ใช่หรอก”
