บันเทิง
บ้าน ‘กันตา ดานาว’ ห่างหายจากวงการ
บ้าน ‘กันตา ดานาว’ ห่างหายจากวงการ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถที่หายหน้าจากวงการไปนานหลายปีเลยทีเดียว ‘วิกกี้ กันตา ดานาว’ อดีตนางเอกที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น ปัจจุบันเธอได้ผันตัวไปทำงานออฟฟิศนั่นเอง
และหากใครที่ติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ ก็จะได้เห็นเธออัพเดตชีวิตให้แฟนๆได้ชมกัน รวมไปถึงมุมบ้านของเธอที่เธอมักจะถ่ายกับน้องหมาของเธอบ่อยๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
สำหรับคุณวิกกี้ ก่อนหน้านี้เธอได้มาเปิดใจถึงชีวิตที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปเป็นแม่ของบุตรชายทั้งสองที่ตอนนี้โตเป็นตำรวจทั้งคู่ “ถ้าย้อนไปเข้าวงการมาก็ตั้งแต่อายุ 16 น่าจะ 30 กว่าปี คือเขาหาคนพูดภาษาอังกฤษได้
หาคนหน้าตาลู กครึ่ง เมื่อก่อนจะมีโมเดลลิ่งมาตามโรงเรียนนานาชาติเริ่มต้นประมาณนั้นเลย เพราะเราได้ภาษาแล้วละครเรื่องแรกเขาต้องการนางเอกไปอังกฤษด่วนภายใน 2 อาทิตย์ แล้วก็ท้องตอนอายุ 21 ตอนมีบุตรแล้วก็ 22
แต่งก่อนท้อง ตอนนั้นยังถ่ายละครอยู่ ท้องสองคน ปี36 กับ37 พอเราเป็นคุณแม่ใหม่ๆจะเซนซิทีฟมากเจอเรื่องราวของบุตรคนอื่นรับไม่ได้ร้อง ไห้มันจะเป็นภาวะของคนมีบุตรใหม่ๆ แล้วสมัยก่อนข่าวเยอะมากพยาบาลดูแลอ
ทิ้งบุตร มัดบุตร ทำบุตรตก มีข่าวให้เราเห็นคือทำใจไม่ได้ปรึกษากับสามีว่าขอเอาตัวเองอยากมาทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ เราก็ไม่ไว้ใจ อีกอย่างเราได้เห็นพัฒนาการของเขาครั้งแรก เราได้เจอก้าวแรก มองแรก คว่ำแรก
หงายแรก การเปลี่ยนแปลงของเขาครั้งแรก เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่ถ้าเราฝากคนอื่นเลี้ยงเราจะไม่ได้เห็น พอมันผ่านตรงนั้นมันเรียกกลับมาไม่ได้ ที่ไม่กลับมาทำงานในวงการบันเทิงไป
ทำงานออฟฟิศเพราะตอนแรกกะเลี้ยงบุตรแป๊ปเดียว พอบุตรเข้าโรงเรียนเดี๋ยวกลับมา สรุปยาวจนบุตรประมาณ ม.2-ม.3 ตอนแรกนึกว่าบุตรติดเรา เปล่าหรอกเราติดบุตรมีช่วงนึงมีผู้ใหญ่ที่สนิท
กับสามีเขารู้สึกว่าบุตรโตแล้ว แล้วเขาก็ทราบว่าเมื่อก่อนเราทำงานอะไร ไม่ควรอยู่เฉยๆ ต้องทำงาน เขาก็แนะนำติดต่อประสานทุกอย่างว่าจะต้องมาทำงานที่คิง พาวเวอร์ ดูแลแผนกต้อนรับ
เรื่องการบริการ ทำงานที่นี่ใหม่ๆ โดนดราม่า เท่าที่คนอื่นเล่าให้เราฟังด้วยความที่เราเป็นนักแสดง เข้ามาเหมือนเขาต่อ ต้านก่อนเลย เรามาจะต้องเรื่องเยอะเป็นดารามาต้องเรื่องมาก ที่สำคัญ
เรามาในฐานะหัวหน้ามันอาจจะกระทบหลายๆฝ่ายที่เขาอาจจะมีความก้าวหน้าของเขาก็เลยโดนแกล้งค่อนข้างเยอะอยู่ ถึงขนาดเคยมีคำสั่ง เคยชวนน้องๆไปทานข้าว น้องเขาก็บอกว่าขอ
บอกตรงๆพวกหนูถูกสั่งว่าใครไปทานข้าวกับพี่วิกกี้จะถูกหมายเตือน พี่เลยรู้ว่าเล่นกันขนาดนี้เลยเหรอแต่ก็ไม่เป็นไรต้องอยู่ให้ได้ เขาไม่อยากให้เราอยู่ใช่มั้ย เราก็ต้องอยู่ กินข้าวคนเดียวอยู่ 4-5
เดือน แล้ว ก็เจอคนที่แกร่งไง แบบฉันไม่แคร์ ก็มากินข้าวด้วย คนที่สั่งเขาโดนออกไปก่อน ตอนนั้นคุณบุตรคุณสามีให้กำลังใจมากค่ะ คือชีวิตเราจะอยู่ตรงไหนต้องทำความเคยชิน เหมือน
เราอยู่ในโซนของเราต้องเปลี่ยนชีวิตตามสถานการณ์ไป เราเคยอยู่วงการบันเทิงอยู่ดีๆก็ไปเป็นพนักงานออฟฟิศเราก็ต้องเข้าใจเขา ซึ่งบางทีเราก็ต้องปรับตัว ที่บ้านก็จะเป็นคนให้กำลังใจ ไม่
งั้นคงไม่อยู่ได้มาจนทุกวันนี้ ซึ่งก่อนคนนั้นเขาออก เราไม่ได้คุยกับเขาโดยตรง เท่าที่ทราบจากมือซ้ายมือขวา เขาก็มีเป้าหมายที่จะปั้นใครขึ้นมา ก็คือเราเป็นตัวน่าหมั่นไส้ อยู่ดีๆก็เดินเข้ามาทำไม แต่ตอนนี้เรายังทำอยู่ที่เดิมค่ะ 14 ปีแล้ว
