บันเทิง
ล่าสุด ‘อ้อย เนรัญชลา’
ล่าสุด ‘อ้อย เนรัญชลา’
เชื่อว่าหลายๆคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตานางเอกคนนี้กันมาบ้าง สำหรับ คุณอ้อย เนรัญชลา เถลิงศักดิ์ ชื่อที่ไว้ใช้ในการแสดงสมัยนั้น ..อดีตนางเอกสาวในยุค70′..ที่เริ่มจากการถ่ายแบบลงปกนิตยสารมาก่อน ที่จะเข้ามา
รับงานแสดงภาพยนตร์เรื่องเเรก งิ้วราย ในปี2518 ด้วยวัยในขณะนั้น 19ปี.. เรื่องนี้สร้างชื่อให้กับเธอ มีผลงานตามมาอีกเช่น ชาติเกลือ – สัตว์มนุษย์ – บ่อเพลิงที่โพทะเล – จ่าทมิฬ และ อีกไม่กี่เรื่อง ก่อนที่
เธอจะอำลาวงการไปอย่างยาวนาน เพื่อไปเป็นสะใภ้ของพลอากาศเอก ทวี และ คุณอารี จุลทรัพย์ เพราะท่านทั้งสองเคยเป็นพระเอกนางเอกจากเรื่อง บ้านไร่นาเรา ในปี2485 ในยุค 40′ มาแล้ว..เวลาผ่านไปรวดเร็ว
บุตรชายของคุณอ้อย ก็โตเป็นหนุ่มได้เป็นดาราเหมือนคุณแม่ คุณเป้ ทวีฤทธิ์ ที่มีผลงานละครหลายเรื่องในปัจจุบัน.. หลายปีตั้งแต่อำลาวงการคุณอ้อยไม่เคยออกสื่อหรือลงรูปภาพใดๆเลย วันนี้ได้นำรูปคุณอ้อย ปัจจุบัน
ด้วยวัย 65 ปี และ บุตรชายมาให้ชมค่ะ ด้านบุตรชายอย่างคุณ เป้ ทวีฤทธิ์ ก่อนหน้านี้เคยมาเปิดใจถึงชีวิตของเขาที่ไม่ง่ายเลย “หลังจากใช้ชีวิตเรียนหนังสือและทำงานอยู่ที่อังกฤษนาน 10 ปี เขาย้ายกลับมา
เมืองไทยเริ่มทำงานเป็นติวเตอร์ ครูสอนภาษาและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยงานถ่ายแบบและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวด้วยการจัดรายการวิทยุ เล่นละครเรื่องแหม่มแก้มแดง ของผู้จัด พอฤทัย ณรงค์เดช และมีงาน
ถ่ายโฆษณามากมาย ปัจจุบันนอกจากงานถ่ายภาพยนตร์ระดับอินเตอร์แล้ว เขายังมีงานละครไทยในฐานะนักแสดงอิสระ ได้แก่ หน้ากากนางเอกช่องเวิร์คพอยท์ และกำไลมาศ ทางช่อง 3 งานโฆษณาซีรี่ส์การบินและ
แสดงซีรี่ส์คลับฟรายเดย์ค่ายเอไทม์อยู่ในวงการมา 9 ปีแล้วครับ (ณ ปีที่ให้สัมภาษณ์ 2562 ) ถ้าเริ่มจากเป็นดีเจ 9 ปีที่ผ่านมาก็เป็นดีเจก่อน แต่ก่อนหน้านั้นผมก็มีสอนกีต้าร์ สอนดนตรี สอนภาษา แล้วก็มาเป็นดีเจ
ถ่ายโฆษณา หนัง ละคร ซีรีส์ ถามทำไมไม่ดังไม่แปลกครับ คือเป้ไม่เคยคิดอยากจะดัง มันเป็นความคิดที่แบบไม่ได้ทำเพราะอยากดัง ทำไปเพราะสนุก แล้วมันเป็นเหมือนเราได้เป็นตัวแทนของคนดู แล้วเราแสดงไปเพื่อ
เอนเตอร์เทนคน ไม่ได้คิดจะให้ดัง มันก็เป็นอย่างนี้ไง” “ช่วงที่ไม่มีงานมันเหมือนกับว่าผมมีโปรเจ็กต์พีเรียดเรื่องหนึ่ง ทำไปสองปีกว่า มันเป็นโปรเจ็กต์ที่ว่ารับงานอื่นไม่ได้ ผมต้องทุ่มเต็มตัว แล้วโปรเจ็กต์มันหยุดกลางคัน
2 ปีครึ่งผมใช้ตังค์เก็บ มีงานเล็กๆ น้อยๆ เราก็ต้องรีบแอบทำ เพราะว่าอีเว้นท์อะไรเราก็รับไม่ได้ ก็มีงานสอนเล็กๆ น้อยๆ เราก็ทำ ตอนนั้นผมบอกว่า 40 บ. แต่จริงๆ คือ 19 บ. ตอนนั้นก็ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือใคร”
พอถามต่อว่าแม้กระทั่งการไปเป็นเด็กเสิร์ฟ “เป้ ทวีฤทธิ์” กล่าวว่า “ทำ ตอนนั้นเป้ก็ทำร้านอาหารด้วยต้องเสิร์ฟอยู่แล้ว แต่จริงๆ สมัยเป้เรียน เป้ก็เสิร์ฟ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นต้องมาทำบาร์ ซึ่งเราไม่เคย
ทำบาร์เราก็เลยแบบไม่เป็นไร ยูหน้าตาดี ยูก็อยู่ตรงบาร์ไป เราก็แบบโอเคๆ แล้วก็ได้ตังค์มาเราก็โอเค”อย่างไรก็ตามพอถามต่อว่าไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ 6-7 ขวบ นามสกุลดัง ทำไมถึงลำบาก มีด้วยเหรอคนรวยที่ตกอับ
“เป้ ทวีฤทธิ์” กล่าวว่า “มีครับ จริงๆ มันเป็นช่วงที่ผมอยู่ที่อังกฤษ แล้วมีช่วงคุณพ่อหายไป ตอนนั้นผม 15 ปี ถ้าเทียบก็น่าจะเป็น ม.6 ทีนี้คุณครูบอกว่าผมต้องไปแล้ว เพราะทางคุณพ่อไม่ได้จ่ายค่าเทอม ครูบอกว่า
ไม่เป็นไร เดี๋ยวอยู่กับที่บ้านครูก่อนนะ หลังจากนั้นผมไปเจอคนไทยที่มีน้ำใจ มีความเมตตา ผมก็เลยได้ทำร้านอาหาร ก็ล้างจานก่อน แล้วก็เสิร์ฟ แล้วผมก็มีตังค์ที่คุณแม่ส่งมาให้ ผมก็ไปลงเรียนจบแล้วก็กลับมาเมืองไทย”
