บันเทิง
ชีวิตล่าสุด ‘ปูดำ สรารัตน์’
ชีวิตล่าสุด ‘ปูดำ สรารัตน์’
ปูดำ สรารัตน์ นางงาม-นักแสดงรุ่นใหญ่ ที่หลายคนเห็นหน้าคร่าตากันผ่านผลงานของเธอมากมาย ปัจจุบันเธอผันตัวไปเป็นอาจารย์สักลายมืออีกด้วย ก่อนหน้านี้
เธอได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตเธอผ่านรายการดัง เห็นว่ามีนินทาว่าเป็นภรรยาลับบ้าง ซึ่งตอนนั้นพี่ปูเองก็เคยบอกว่าเคยเลือกเดินทางผิด เลือกคนผิด?
ปูดำ : “ตอนสมัยที่ประกวดนางงาม แล้วมีชีวิตที่พีคสุดๆ ก็มีบุคคลให้เลือกมากมาย เข้ามาให้เลือกทุกอาชีพ แล้วเราก็คิดว่าบุคคลที่เราเลือกเป็นคนสุดท้าย
เป็นคนที่เราตัดสินใจเลือกแล้ว แต่พอเราเลือกไปแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง จนมาสักระยะเรารู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เริ่มเสียเวลา เสียโอกาสชีวิตแล้ว เพราะ
เรากลับไปเป็นรองนางสาวไทยไม่ได้แล้ว กลับไปเป็นรองมิสเอเชียไม่ได้ แต่ตอนนั้นใครๆ ก็เข้ามาหาเราเยอะแยะมากมาย แต่เราไม่เลือก แต่พอเราเลือกกลับ
กลายเป็นเลือกผิด” ตอนนั้นหนุ่มๆ รุมจีบเยอะมาก? ปูดำ : “จริงๆ แล้วส่วนใหญ่นางงามกับสายดารามันคนละฟีลกัน อย่างดาราก็จะเป็นฟีลลู กคุณหนู
แต่อย่างพี่ก็เป็นแบบผู้ใหญ่ ก็จะมายื่นข้อเสนอ ให้ได้ทุกอย่างเลย อยากกินอะไร” เห็นว่ารายเดือนหลักล.เลยเหรอ? ปูดำ : “จริงๆ เขามาเสนอให้เรามัน
มากกว่าหลักล.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นรถ เป็นอะไร ตอนนั้นเราคิดเยอะ เพราะเรากำลังรุ่งเรืองสุดขีด แล้วผู้ใหญ่ที่มาเสนอให้เราก็เป็นผู้ใหญ่จริงๆ ซึ่งเรา
ไม่เคยเชื่อเลยว่าพวกท่านจะไม่มีครอบครัว ข่าวก็บอกว่าท่านมีครอบครัวแทบทุกคน เราจึงไม่เลือกไง” นอกเหนือจากไม่มีแฟนแล้ว เพื่อนที่คบจริงๆ จังๆ ก็ไม่มีด้วย
ปูดำ : “ไม่มีค่ะ ก็จะมีแต่น้อง อย่าง บุ๋ม และก็จะมีกัลยาณมิตรที่ดีทางด้านสายบุญ ที่จะไปวัดด้วยกันแต่พอเราเสร็จเรียบร้อยทำบุญเสร็จเราก็ต่างคนต่างแยกย้าย
ส่วนเพื่อนสนิทที่คิดอะไรไม่ออกเราจะโทรหาเขาคือไม่มีเลย ทุกวันนี้ คิดอะไรไม่ออกคือ โทรหาพระพี่ชาย ซึ่งทุกวันนี้เราคุยอยู่แค่สองคนคือ พระพี่ชาย กับ หมอดู
ที่คุยกับหมอดูก็เพราะว่าเราได้เล่าได้พูดได้คุยได้ถามแล้วเราก็จบแค่ตรงนั้นไม่ได้กระจายออกไปอีก” แล้วจากนี้ พี่ปูดำ คิดไหมว่าเราจะเดินไปสู้อะไรอยู่ เพราะในเมื่อ
ทุกวันนี้ ตังค์ก็มี มีทุกอย่างพร้อมหมด ทุกวันนี้เราเดินไปสู่อะไรอยู่ ปูดำ : “ถามแบบนี้จะตอบตรงๆแบบไม่อายเลยนะ ทุกวันที่เย็นแล้วเราเข้านอนแล้วเราหลับ
ลงไปพร้อมกับผ้าห่มที่ห่มทำให้เราอุ่นตัว เราจะพูดเสมอว่า หลับไปเลยนะ หลับได้หลับไปเลย ถ้าไปขอไปแบบสงบ หลับไปเลยเพราะว่าเราไม่มีอะไรให้ห่วงแล้วเพราะ
เราไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้ห่วงแล้ว แล้วพี่ชายก็บวชเป็นพระ เราขอไปแบบนี้นะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้หรอก แต่เป็นสิ่งที่เราจินตนาการว่าถ้าเราเกิดไม่ตื่นขึ้นมา”
