บันเทิง
ภาพล่าสุด ‘มนฤดี ยมาภัย’
ภาพล่าสุด ‘มนฤดี ยมาภัย’
เชื่อว่าหลายๆคนคงจำ คุณตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย นางเอกดังช่องมากสี เมื่อหลายปีก่อนกันได้ ผลงานดังๆของเธอก็เช่น นางทาส (2536),ดาวพระศุกร์ (2525),
บ้านทรายทอง(2529)ฯลฯ หลังหายเงียบจากวงการไปนานหลายปี เพื่อไปเดินทางสายธรรมตระเวณทำบุญ ที่ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อนหน้านี้
ก็ได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง หลัง แม่แก้ว สุดารัตน์ คุณแม่ของหนุ่มณเดช คุกิมิยะ เคยอัพภาพร่วมทริปส์บุญกันกับคุณตุ๋ยลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งก็มีแฟนๆที่คิดถึง
เข้ามากดไลค์ และคอมเม้นท์ร่วมอนุโมทนาบุญรวมถึงแสดงความคิดถึงอดีตนางเอกดังมากมายเลยทีเดียว สำหรับคุณตุ๋ย มนฤดี หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สักหน่อย
เธอเคยไปปฏิบัตรธรรมที่ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี คุณตุ๋ยเผยว่า ที่ผ่านมาก็มีคนมาติดต่อให้เล่นละครอยู่เหมือนกัน แต่ตนอยากจะศึกษาทางด้านธรรมมากกว่า
จึงปฏิเสธที่จะหวนกลับเข้าสู่วงการมายาอีก อยากจะค้นหาตัวเอง ปฏิบัติธรรมเร่งการภาวนา หลายปีที่ผ่านมาจึงไม่ได้ออกไปพบปะกับประชาชน หรือออกสังคมแต่อย่างใด
ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวสนใจเรื่องของการปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เล็กแล้ว และก็ได้ทดลองปฏิบัติมาบ้างเป็นระยะ ส่วนที่สนใจมาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านตาดของ “หลวงตามหาบัว”
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยมานมัสการหลวงตามหาบัว และก็ได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้หลายครั้งแล้ว แต่เป็นช่วงระยะสั้น ๆ ไม่เหมือนครั้งนี้ที่ตั้งใจไว้นั่นเอง
อดีตนางเอก “ดาวพระศุกร์” ยังกล่าวอีกว่า การที่ผู้สื่อข่าวมาพบตนในครั้งนี้ หากจะทำให้ตนเป็นส่วนหนึ่งที่จะดึงให้คนที่จะหันมาสนใจในทางธรรม
ได้เข้ามาปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น ตนเองก็จะยินดีมาก เพราะการที่เราปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง ย่อมดีกว่าด้านอื่น ก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาลองปฏิบัติธรรมดูบ้าง
สำหรับการปฏิบัติภารกิจในทุก ๆ วัน คือตื่นนอนตั้งแต่ 04.00 น.หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็จะออกมาจัดอาหารที่จะถวายพระภิกษุสงฆ์ ที่ศาลาในวัด
จากนั้นก็ฉันท์อาหารสำรวม เสร็จแล้วก็รับฟังเทศนาจากพระอาจารย์หลวงตามหาบัว หลังจากหลวงตามหาบัวออกไปสงเคราะห์โลก (ออกไปให้ทานตามสถานที่ต่าง ๆ)
ก็เป็นเวลาที่เป็นส่วนตัว ที่ทุกคนจะนั่งภาวนา จนถึงบ่าย 3 โมง จึงจะเข้าวัดกวาดลานวัดและที่พัก เสร็จแล้วก็ไปนั่งภาวนาต่อ จนเช้าวันใหม่
ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนที่จะนั่งภาวนา โดยพระอาจารย์มหาบัว ไม่ได้บังคับ และไม่ได้เร่งเรื่องการภาวนา แต่ท่านจะเน้นเรื่องของ
สติ คือสติต้องแนบกับคำบริกรรมภาวนา คือคำว่า “พุทโธ” อยู่เสมอ ซึ่งท่านย้ำอยู่เสมอว่าอย่าให้แยกออกจากกัน ต้องให้แนบไปด้วยกันเสมอ
