บ้าน ‘วิทย์ ภูธฤทธ์’ หลังมีบุตร
ออกมาประกาศว่าตอนนี้มีทายาทถึง 2 คนแล้ว สำหรับ วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล นักแสดงรุ่นใหญ่ วัย 52 ปี หลังจากเคยเปิดตัวว่ามีบุตรสาว น้องเบล เมื่อ 4 ปีก่อน ล่าสุดออกมา
เปิดตัวบุตรชายคนที่ 2 น้องภูเบศวร์ ก็เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆอีกเช่นเคย วันนี้อยากจะพาทุกคนไปเปิดบ้านครอบครัวคุณวิทย์ ที่บอกได้เลยว่าอบอวลไปด้วยความอบอุ่น
จริงๆ หากใครที่ติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณวิทย์ก็จะเห็นความน่ารักของทายาททั้งสองคนในรั้วบ้าน ที่มักจะมาแจกรอยยิ้มให้แฟนๆอยู่บ่อยครั้ง ใครเห็นก็เป็นต้องใจละลาย
ตามๆกันไปอย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้คุณวิทย์ได้มาเผยเส้นทางรักภรรยาคนใหม่เอาไว้ในรายการดัง คุณแม่ของของน้องเบลล่าคือใคร ในวงการหรือนอกวงการ ? “ไม่ได้อยู่ใน
วงการ เป็นน้องที่ไปเจอเค้าตอนที่เรากลับไปพักที่บ้านที่ต่างจังหวัด” บุตร 6 เดือนแล้วทำไมเพิ่งมาโพสต์รูปน้อง ? “สาเหตุที่เพิ่งมาโพสต์ตอนนี้เนี่ย เพราะว่าสถานะภาพของเรามันยัง
ไม่เคลียร์ในสายตาของหลายๆคน ใจจริงก็อยากจะทำเหมือนพ่อแม่มือใหม่ที่มันเห่อบุตรบ้าง แต่ด้วยความที่เรายังไม่เคลียร์เท่าไหร่เลยยังไม่อยากทำอะไรออกไป” พูดถึงแฟนพี่หน่อย
เค้าเป็นใคร เค้าน่ารักยังไง ไปเจอกันได้ยังไง ปิ๊งกันตอนไหน? “ จริงๆ แล้วน้องคนนี้ไปเจอเค้าตอนที่ผมกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด เค้าเป็นเพื่อนรุ่นน้องของน้องสาวผม ก็เจอ
แล้วก็คุยกัน” เห็นครั้งแรกชอบเลย ? “ ก็ประมาณนึง” ตอนที่เรารู้ว่าเรากำลังจะมีบุตร ตอนนั้นเรารู้สึกยังไงบ้าง วินาทีแรกที่รู้ ? “ก็ดีใจ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่ลึกๆ
ภายใน มันไม่ใช่ว่าเราอยากมีบุตรเพราะคนเก่าเค้าให้เราไม่ได้ อันนี้ไม่เกี่ยว แต่มันเป็นฟีลลิ่งที่เราอยากจะมีซักครั้งในชีวิต มันเป็นความคิด แต่พอมันเกิดขึ้นจริงมันก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์ส”
แสดงว่าพี่อยากจะมีบุตรในใจ แต่ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีตอนนี้ อยู่ดีๆ พอมาแล้วเราก็เลยเปลี่ยนตำแหน่งกลายเป็นพ่อที่ดีให้ได้ ? “ใช่” ครั้งแรกที่เราได้อุ้มบุตร ? “จริงๆแล้ว
มันก็เป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่เราเองเราก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกแบบอะไร มันคืออะไร นี่บุตรเราหรอเนี่ย ทำไมมันตัวเล็กๆ แดงๆ” เหตุผลที่ไปต่อกันไม่ได้กับคนเก่า
เป็นเพราะพี่อยากมีบุตรและอีกฝ่ายไม่อยากและไม่สามารถหรือเปล่า? “จริงๆแล้วความที่อยากมีบุตรเนี่ย มันเกิดจากวัยของเราที่มันเปลี่ยนไป คือตอนที่เราคบกับคนเก่าอยู่มันก็
20 ต้นๆ มันก็อีกแบบนึงมันก็เป็นช่วงทำงาน 30 มันก็อีกแบบนึง 40 มันก็อีกแบบนึง พอ 50 มันก็อีกแบบนึง มันก็ผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาเยอะ ตัวเราเองก็มองว่าถ้าเรามีบุตร
ซักคนมันก็คงจะดี มันก็เป็นความคิดของเราเอง มันก็ต้องยอมรับสภาพ คือก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะมี มันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าช่วงที่พอระหองระแหงกับคนเก่า แล้วแยกตัวออกมา
อยู่มันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ามาโดยที่เราก็ไม่ได้ตั้งใจ ” แล้วยังได้คุยกันบ้างมั้ย ? ” ก็เรื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับคุยอะไรกันมาก เพราะเค้าก็มีเส้นทางของเค้าซึ่งเรารู้ๆ กันอยู่”
