บันเทิง
บ้าน ‘ลูกน้ำ พาเมล่า’ อยู่เป็นโสด
ไม่มีคนไหนพิชิตใจได้มา10 ปีแล้ว
บ้าน ‘ลูกน้ำ พาเมล่า’ ครองตัวอยู่เป็นโสดมาจนวันนี้
ห่างหายไปนานเลยทีเดียว สำหรับนักร้องยุค 90 ฉายาสะโพกเทอร์นาโด อย่าง พาเมล่า เบาว์เด้นท์ ที่ใคร ๆ รู้จักจนถึงทุกวันนี้
ก่อนที่จะมาเปลี่ยนแนวมาร้องเพลง มีผลงานเพลงฮิตอย่าง โบว์แดงแสลงใจ และนี่คือภาพปัจจุบันในวัยใกล้เลข 5 กาลเวลา
ทำอะไรความสวยไม่ได้เลยจริง ๆ ล่าสุดได้เปิดใจว่า ทำไมอยู่ๆถึงมีแนวคิดบวกไปหมด “อาจจะเป็นที่เราปฎิบัติธรรมด้วย
และเราได้เห็นคุณค่าตรงนั้นแล้วเราได้นำกลับมาใช้ ซี่งมันใช้ได้ผลจริงๆมันไม่มีกองไฟใดที่เหมาะให้เราไปกอดไว้ให้เราร้อน
ไม่มีขยะชิ้นใดที่เหมาะหรือคู่ควรที่เราจะเก็บไว้ในบ้านของเรา เพราะฉะนั้นเรื่องไหนที่เป็นเรื่องไม่ดีเราก็ผ่านมันไปซะไม่จำเป็นต้องกอด
ต้องให้ราคามันเราก็จะอยู่อย่างมีความสุข เพราะไม่มีใครให้ความสุขเราได้เท่าตัวเราเองไม่มีใครมารับผิดชอบตัวเราได้ ” ที่ผ่านมา
เรื่องความรักไม่ดีทำให้คิดว่าตอนนี้ดีที่สุด “ใช่คือบางทีเราเหนื่อย มันเหมือนเป็นแพทเทิร์นมันเริ่มต้นด้วยความสวยงามไปสักพัก
จะมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วต่างคนต่างไม่ยอมเพราะคิดว่าตัวเองไม่ผิดสุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป คือถ้าเจอคู่ชีวิตที่เหมือนเพื่อนกันได้มันจะดีมาก
เพราะมันจะประคองกันไปจนแก่จนเฒ่า แต่บังเอิญเราไม่ได้เจอตรงนั้นเราเลยรู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวได้เราแก่เฒ่าคนเดียวได้เราโอเค ถามว่าโสดแล้วโอเคไหมสำหรับเราโอเคนะ”
ครั้งก่อนบอกว่าจะขออยู่โสดไปตลอดชีวิต มีคนเข้ามาไหม? “โอ๊ย มันก็มีบททดสอบ เพราะว่าอะไรที่เราตั้งใจก็จะโดนทดสอบอยู่แล้ว เราถวายเป็นสัจจะเลย
ไม่คืนคำ คือเราตั้งใจแล้ว แต่มีคนเข้ามาเราก็คุย แต่ก็คุยประมาณหนึ่งว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ เราตั้งใจไม่มีคู่แต่กัลยาณมิตร” อยู่วงการบันเทิงมา39 ปี
“เข้าครั้งแรกตอนอายุ13 คือเราเริ่มจากโฆษณาถ่ายแบบถ่ายแฟชั่นและเล่นละคร มาร้องเพลงครั้งแรกตอนอายุ19 ที่เข้าวงการมาได้จากการที่
เรามีรุ่นพี่เป็นนางแบบซึ่งเขาสังกัดโมเดลลิ่ง เขาก็ชวนเราไปเทสต์หน้ากล้องก็ได้งานโฆษณามาประปราย แล้วก็ไปถ่ายแฟชั่นหนังสือแล้วผู้ใหญ่
ทางช่องก็ไปเห็นในหนังสือเลยเรียกเข้ามาคุยชอบงานแสดงไหมชอบร้องเพลงด้วยหรือเปล่าก็เลยมีโอกาสเซ็นต์สัญญา2 ฉบับพร้อมกันทั้งเล่นละครและร้องเพลง
แต่ร้องเพลงต้องไปเรียนเพิ่มเลยกลายเป็นว่าเล่นละครก่อน แต่จริงๆแล้วเริ่มพร้อมกัน” บางคนก็เม้าท์ว่าขาลง? “มันปกติ อยู่มาตั้งแต่ปี 90
พี่เคยพีคสุด แล้วก็ลงสุด แล้วขึ้นไปพีคใหม่ แล้วก็ลง สุดท้ายแล้วมันก็คือหน้าที่การงานที่เราต้องรับผิดชอบแค่นั้นเอง”
