ภาพล่าสุด ‘ติ๊ก กัญญารัตน์’
ต้องบอกเลยว่าตอนที่ออกอากาศก็เรียกเรตติ้งได้อย่างถล่มทลายเลย สำหรับละคร “ผู้กองยอดรัก” ในเวอร์ชั่นของ “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” กับนางเอกสาว “ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ”
ที่หลายคนติดกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนคนหลงรักไอ้พันกันทั่งประเทศ หลังจากนั้นทั้งคู่ยังมีผลงานในวงการเรื่อยเลยมา แต่ช่วงหลังทางด้าน “ติ๊ก กัญญารัตน์” ก็ไม่ค่อยรับงานละครจนแฟนๆ
บ่นคิดถึงว่าสาวติ๊กหายไปไหนกัน ปัจจุบัน “ติ๊ก กัญญารัตน์” เป็นทูตสันถวไมตรีของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นตัวแทนนักท่องเที่ยวชาวไทย ให้แก่ประเทศดังกล่าว จาก องค์การส่งเสริม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2550 “ติ๊ก กัญญารัตน์” ในวัย 44 กะรัตก็ยังคงจัดรายการ “เซย์ ไฮ” เพียงแต่ไม่ค่อยได้รับงานละครจึงไม่ได้ค่อยได้เห็นเธอเท่าไหร่หนัก ถึง
แม้ปัจจุบันจะอายุเข้าหลักสี่แล้ว แต่ความสวยของเธอก็ยิ่งออร่าปังๆมากๆ เรียกได้ว่าเวลาทำอะไรเธอไม่ได้จริงๆ และก่อนหน้านี้สาวติ๊ก ได้มาเปิดใจว่าทำไมเธอถึงเลิกเป็นนางเอก เป็นคำถามที่
หลายคนค้างคาใจว่าทำไมนางเอกที่มีผลงานเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่องอย่างเธอนั้นถึงเลือกผันตัวไปทำรายการหรือทำงานเบื้องหลังอย่างรวดเร็วทั้งที่บทที่ได้รับก็ยังคงสร้างชื่อเสียงให้เธอได้อย่าง
ต่อเนื่อง “ติ๊กทำงานตั้งแต่อายุ 17 ปี เรียกได้ว่าสัปดาห์นึงมี 7 วันเราทำงาน 8 วัน เรารับงานสองเรื่องซ้อน เช้าชนเช้าตลอดเวลา ทำงานมาถึงประมาณ 35 แล้วก็ถึงหยุด ก่อนหน้านั้นคือ
ทำงานอัดอย่างเดียวเลย” “ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการที่เราอยากจะเติบโตกว่าที่เราเป็นเพราะว่ามันก็คงถึงวัยที่เราไม่ได้อยู่เฉพาะเบื้องหน้า มีคนใหม่ๆที่มาเป็นตัวแทน เราเองก็ไม่รู้จะอยู่ตำแหน่ง
ไหนของหน้าฉาก จะไปเล่นเป็นนางเอก พระเอกก็ไม่มี แต่งงานกันหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะไปจับคู่กับใคร อินเลิฟกับใคร หรือถ้าไปเล่นแล้วเขาจะอินกับเราไหม มันก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ยากสำหรับ
หน้าฉาก หรือว่าจะให้เรากลับไปเล่นเป็นแม่ เราก็คิดแล้วคิดอีก หรือว่าเราจะจบภาพสวยๆ เป็นนางเอกที่ทุกคนจดจำเรา” แม้จะเป็นนางเอกระดับตัวท็อปแต่เมื่อตัดสินใจเลิกรับงานละครและมา
ให้เวลากับการทำรายการSay..Hi! แบบเต็มตัวอาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนหน้าฉากด้วยเวลาออกอากาศของรายการที่ค่อนข้างดึก “ก็เริ่มคิดว่าเราจะทำอะไรจากที่เป็นตัวตนเราก่อน เราไป
ญี่ปุ่นหลังจากที่ปิดกล้องละครเกือบทุกเรื่องเลย แล้วก็เป็นคนชอบพูดในวิดีโอเล่น สมัยก่อนยังไม่มีมือถืออัดก็ถ่ายวิดีโอเล็กๆ บางวันก็เป็นพิธีกรเวลาไปท่องเที่ยว ก็จะบรรยายในสิ่งที่ตัวเองไป
ก็มีความรู้สึกว่าเออ! เราก็เป็นของเราแบบนี้ ก็เลยเดินทางไปที่ญี่ปุ่นเพื่อไปติดต่อกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นเลย เพราะตอนนั้นก็คิดว่าถ้าทำท่องเที่ยวเราอยากจะทำที่ใดที่หนึ่งแล้วให้
เป็นExpert ไปเลย” “คือทางช่อง 3 เป็นสถานีใหญ่และก็ค่อนข้างที่จะมีผังเต็มแล้ว เราได้เวลาส่วนนึงของสถานีนั่นก็คือพิเศษแล้ว ติ๊กได้คุยกับผู้ใหญ่อย่างคุณวิบูลย์ (วิบูลย์ ลีรัตนขจร ผู้
บริหาร เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บอกว่าติ๊กทำ พี่ยังทำตั้งแต่ตีสองตีสามมา ทำพิสูจน์ตัวเอง เราใช้เวลาตรงนั้นพิสูจน์ตัวเองให้เรามีจุดยืน เราก็เชื่อผู้ใหญ่ ทำตรงนั้นจนกลายเป็นคอนเนคชั่นกันเรื่อยมา”
