‘แบงค์ ปวริศร์’ โด่งดังในจีน
สำหรับอดีตพระเอกหนุ่มหล่อหน้าตี๋ ‘แบงค์ ปวริศร์ มงคลพิสิฐ’ นักร้องนักแสดงมาดเซอร์ เรียกได้ว่าหายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไทย
ไปนานอยู่พักใหญ่ เพราะเจ้าตัวนั้นก่อนหน้านี้โกอินเตอร์ไปเล่นหนังอยู่ที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง โดยก่อนหน้านี้ ‘แบงค์ ปวริศร์’ ก็เคยเล่าถึง
เส้นทางในวงการบันเทิงไว้ว่า “สมัยนั้นผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 4 ใกล้จะจบแล้วครับ ผมก็จะไปเดินสวนจตุจักร เป็น่อค้าบ้าง เดินเล่นบ้าง
อยู่บ่อยๆ แล้วพอดีมีคนเห็นเรา ก็เลยชวนไปแคสเอ็มวี แล้วก็ได้เล่นเอ็มวีแรกที่ผมเล่นน่าจะเป็นเพลงของวง สไมล์ บัฟฟาโล อาจจะด้วยลุคเรา
แบบนี้ เซอร์ ผมยาวมีหนวดหน่อยๆ ก็เลยได้เล่นพวกเอ็มวีแนวๆ นี้บ่อย ซึ่งก็ต้องเป็นเอ็มวีเพลงช้านะครับ พอหลังจากนั้นก็ต่อเนื่องมาเป็นสิบกว่าเพลงได้”
หลงรักในการแสดงและการร้องเพลง “เล่นไปเล่นมาก็รู้สึกว่าเราก็ทำได้นะ มาถูกทางเหมือนกัน ดนตรีก็เล่นได้บ้าง ร้องเพลงได้ แต่ไม่ได้เก่ง
จนกระทั่งได้มาเจอกับพี่น้อย เขาบอกว่ามีหนังฮ่องกง มาแคส ก็บอกให้ไปลองเล่นดู แต่เอาจริงๆ ผมกับการแสดงไม่ค่อยชอบเท่าดนตรี แต่ผมเป็นคน
ชอบหนังบู๊ของฮ่องกงอยู่แล้ว ชอบ โจวเหวินฟะ หลิวเต๋อหัว งานที่ไปแคสให้เป็นคนที่พูดไม่ได้ ก็ลองไปทำ หลังจากนั้นก็ได้เข้าสู่วงการบันเทิงแบบเต็มตัว
ต่อยอดงานใหม่เข้ามาเรื่อยๆ” ช่วงโด่งดังของ ‘แบงค์ ปวริศร์’ ในสายงานละคร “ตอนแรกได้เล่นหนังมาก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มมีละครเข้ามา
ละครเรื่องแรกที่เล่นก็คือ ทะเล จำปี ดนตรี ทราย ซึ่งก็เป็นสายดาร์กทางที่เราชอบอยู่แล้ว ก็เลยรับ ฉะนั้นงานทุกงานที่เรารับจะเป็นแนวที่เราชอบ
เราถนัดมากกว่า ถึงจะรับ หรือไม่ก็เป็นบทที่ท้าทาย อย่างเรื่องที่ทำให้เราพอเป็นที่รู้จักบ้างก็น่าจะเป็นของดีด้า แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นเป็นคู่สอง
ในละครเรื่อง ‘วังวารี’ คู่กับ นาเดีย ก็จะวัดความนิยมของตัวเองเวลาไปทำรายการต่างจังหวัดว่าคนรู้จักเราไหม ก็มีบ้างหลังจากมาเล่นละคร ก็เลยทำให้
เรารู้ว่าตลาดละครกว้างมาก” เปลี่ยนลุค “ถ้าต้องตัดผม ผมจะไม่รับงานนั้นเลย ผมไว้ผมมาตั้งแต่จบมัธยมปีที่ 6 แล้วก็เริ่มไว้ยาวมาตลอด เข้ามหาวิทยาลัยจนทำงาน
ตอนนั้นถ่ายหนังที่ฮ่องกง ก็มีต้องตัดเหมือนกัน ตัดไปนิดหนึ่ง ผมทำใจไม่ได้ เลยขอหยุดเขาก็เลยให้ช่างมือหนึ่งของฮ่องกงมาเก็บผมให้เหมือนตัดผมสั้น ช่างฮ่องกงเก่งมาก
ไม่ได้ตัด แต่เหมือนตัด คือใช้เวลาทำผมที 3-4 ชั่วโมง ทำยังไงก็ได้โดยไม่ต้องตัดผม หรือตัดน้อยที่สุด ซึ่งเขาก็มีวิธีของเขา เก่งมากๆ ช่วงที่ทำงานอยู่เมืองจีนราวๆ 2 ปี
เหนื่อยกว่าบ้านเรานะ เพราะว่าบ้านเราจะทำงานลักษณะ เพื่อน พี่ น้อง พอสมควร แต่ของเขาค่อนข้างหนัก อย่างของเรามีวันหยุดอาทิตย์หนึ่งวันสองวัน แต่ที่นู่นเป็นเดือนไม่หยุดสักวันเลยก็มี อย่างบางเรื่องมาถ่ายที่ไทย 20-30 วัน ไม่หยุดเลย”
