บันเทิง
บุตรชาย ‘กษาปณ์ จำปาดิบ’
บุตรชาย ‘กษาปณ์ จำปาดิบ’
สำหรับ ‘อ๋อง กษาปณ์ จำปาดิบ’ อดีตพระเอก-นักร้อง ที่เคยโด่งดังอย่างมากในช่วงยุค 90 เขาฝากผลงานการแสดงและผลงานเพลงไว้มากมาก อย่าง เพลง ‘มีอะไรอะเปล่า’
ส่วนด้านชีวิตส่วนตัวของ ‘กษาปณ์ จำปาดิบ’ พื้นเพเป็นชาวลพบุรี และได้แต่งงานสมรสกับภรรยา ‘นิธิมา จำปาดิบ’ และมีบุตรชายด้วยกันเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ‘ไมล์ ณกรณ์ จำปาดิบ’
ที่บอกเลยว่าความหล่อ เท่ และมีเสน่ห์ เทียบกับพ่อ ได้เลย เพราะหน้าตาหล่อเหมือนพ่อเป๊ะ แถมยังตามพ่อเข้าวงการ ในฐานะนักแสดงอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘กษาปณ์ จำปาดิบ’ ก็ควงบุตรชาย
ไปให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวชีวิตครอบครัว และชีวิตในวงการบันเทิง ไว้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง “ตอนเล็กๆ ผมไม่ชอบการเป็นดาราเลยครับ เพราะเพื่อนๆ ชอบแซวว่าเป็นทายาทดารา
ผมไม่ชอบเท่าไหร่ ผมชอบอยู่เงียบๆ มากกว่า แถมยังโดนว่าพ่อผมตกกระป๋องอีก” จุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดง? “ตอนผมเรียนมัธยม มีพี่คนหนึ่งเจอผมในโซเชียล แล้วชวนผมไปแคสต์
เป็นนักร้อง แต่ไม่ผ่าน ความจริงตอนนั้นที่ไปแคสต์งาน ทุกคนยังไม่รู้เลยครับว่าผม เป็นทายาทใคร มารู้เอาทีหลัง ตอนที่ผมเขียนโปรไฟล์ พอหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับงานอะไรอีกเลย
แต่แล้วพี่คนเดิมติดต่อผมมาอีกครั้ง คราวนี้ให้ไปแคสต์ ในฐานะนักแสดงของสังกัด ถามผมว่าจะกลับมาลองดูอีกรอบไหม ผมว่ามันไม่หนักหนาอะไรถ้าเราได้ลองลงมือทำ ก็เลยตอบตกลง
ปรากฏว่าไผมแคสต์ติด ดีใจมาก เพราะผมแทบไม่ได้ใช้ชื่อเสียงของพ่อเลยครับ ภูมิใจตรงนี้ที่สุดแล้ว เพราะเราสามารถทำได้ด้วยตัวเองมากกว่า” พ่อได้ดูผลงานแล้วมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง
“พ่อได้ดูละครเรื่องสุดแต่ใจจะไขว่คว้าแล้วบอกว่า ไม่คิดว่าผมจะทำได้ขนาดนี้ แต่ก็บอกว่ายังไม่ผ่านนะ ยังต้องทำให้ได้มากกว่านี้อีก พ่อเขามาตรฐานสูง” พ่อมีสไตล์ในการสอน
และเลี้ยงดูเราไหม “ผมไม่ค่อยได้คุยกับพ่อมากนักเท่าไหร่ เพราะเราต่างคนต่างใช้ชีวิตอยู่แล้ว แต่ผมกับพ่อจะมีความเป็นศิลปินคล้ายๆ กัน ส่วนใหญ่ที่ได้คุยกัน จะเป็นเรื่องความชอบ
แบบผู้ชายๆ อย่างผมชอบรถมอเตอร์ไซค์ เพราะพ่อก็ชอบเหมือนกัน แต่ผมจะสนิทกับแม่มาก มีอะไรก็จะคุยกับแม่ทุกเรื่อง แล้วแม่ก็จะเอาเรื่องผมไปปรึกษาพ่อออีกที พ่อก็จะรู้ผ่านคุณแม่
มากกว่า” คุณพ่อดุไหม? “มีครั้งนึงผมติดการเล่นกีฬามาก เคยไปแข่งเวกบอร์ด เป็นกีฬาทางน้ำ ไม่กลับบ้านเลย หายไปสามสี่วัน พ่อก็เป็นห่วงมาก เพราะติดต่อเราไม่ได้เลย”
แล้วได้ติดตามผลงานพ่อบ้างไหม “จริงๆ ตอนแรกไม่รู้ว่าพ่อดังไหม จนกระทั่งคุณครูกับเพื่อนมาบอกว่า พ่อเราดังมากนะ หลังจากนั้นก็ลยลองไปค้นหา เสิชดูว่าพ่อเคยทำอะไร
ผลงานอะไรบ้าง เอาจริงๆ พ่อเป็นไอดอลของผมนั่นละ ไม่ได้มองใครที่ไหนทุกวันนี้ชื่อเสียงของพ่อก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ว่าการที่ผมเป็นทายาทของเขาก็ไม่ได้แปลว่าผมจะเหมือนเขาทุกอย่าง
เราก็มีความชอบและสไตล์ที่ต่างกัน ตอนยังเล็ก ผมเคยคิดว่า มันจะดีกว่าไหม ถ้าพ่อไม่ใช่คนดัง แต่ตอนนี้เราก้าวผ่านตรงนั้นมาได้ แม้มันจะใช้เวลานานแต่เราก็เข้าใจเขามากขึ้น”
