บันเทิง
บุตรบุญธรรม ‘พ่อรอง-แม่ทุม’
บุตรบุญธรรม ‘พ่อรอง-แม่ทุม’
เรียกได้ว่าเป็นคู่รักอมตะ ของคนบันเทิงที่เป็นต้นแบบ และแบบอย่างในการใช้ชีวิตคู่มาอย่างดีโดยตลอดสำหรับ ‘พ่อรอง เค้ามูลคดี’
และแม่ทุม ปทุมวดี’ นักแสดงอาุโสมากความสามารถ หลังจากครองรักมายาวนานเกือบ 50 ปี ปัจจุบันถึงแม้คนรักจะจากไปแต่
ความรักที่ ‘พ่อรอง เค้ามูลคดี’ มีให้ ‘แม่ทุม ปทุมวดี’ ยังคงไม่คลายไปจากใจ และสำหรับทางด้านชีวิตครอบครัวของ ‘พ่อรอง-แม่ทุม’
มีบุตรสาวคือ ‘ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี’ และบุตรบุญธรรม 2 คน คือ ‘คุณใหม่ นาวาตรี สรรเสริญ เค้ามูลคดี’ ปัจจุบันก็มีครอบครัว
และรับราชการทหาร มรหน้าที่การงานที่มั่นคง และคอบช่วยเหลืออยู่เคียงข้างกันทั้งในยามทุกข์-สุข และสำหรับความรักอมตะของ
‘พ่อรอง-แม่ทุม’ ฝ่ายชายก็เคยเล่าเรื่องราความรักไว้ว่า “ทุมเป็นนักร้องดังมาก ผมมักจะเห็นเธออยู่เป็นประจำตามหน้า นสพ. ผมมอง
ว่าเขาสวย และหน้าตาดีมากๆ แต่ผมกลับไปจีบเพื่อนทุมแทน แต่นานวันเข้าก็ต้องแยกทางกัน ทุมช่วยแนะนำได้หมด ผมก็เห็นแล้วว่า
ผู้หญิงคนนี้เก่งและมีน้ำใจมาก นานวันเข้าก็ทำให้คิดได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ดี ถ้าสักวันมาเป็นแฟนเป็นภรรยา ชีวิตเราอยู่รอดแน่ เวลาเจออะไร
คับขันก็ช่วยกันแก้ไปได้ แต่ก็ไม่เคยบอกรักเขาสักที” หลังจากคลุกคลีและคุ้นเคยจากความเป็นเพื่อนกันมาสักระยะ ‘พ่อรอง’ ก็ตัดสินใจขอ
‘แม่ทุม’ แต่งงาน “ตอนนั้นผมเพิ่งอายุ 21 ปี ไปทานข้าวเพื่อนๆ หลายคน และเราก็จับมือเขาแล้วบอกว่า เธอกับฉันแต่งงานกันนะ ทุม
เลยว่าถ้าอย่างนั้นไปขอกับพ่อเลย หลังจากวันนั้น ก็เริ่มไปมาหาสู่ที่บ้านกันนานเป็นปีๆ ได้เห็นหน้าพ่อ-แม่ และรู้จักครอบครัวของเขา แต่ยัง
ไม่กล้าพูดเรื่องขอแต่งงาน จนนานวันเข้าๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งผมทำงานติดต่อกัน พ่อเขาเลยไม่ค่อยเห็นหน้า พ่อทุมก็เริ่มถามหา จนวันรุ่งขึ้นผม
ก็ตัดสินใจไปพ่อพ่อทุมว่าเราอยากแต่งงานกัน และให้คำสัญญากับท่านว่า ผมกับทุมจะแยกกันต่อเมื่อใครคนใดคนหนึ่งจนวันสุดท้ายของชีวิต
สุดท้ายเราก็ฝ่าฝันทำให้ท่านเชื่อมั่น และได้แต่งงานกันในที่สุด พอถึงวันงานจริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนมีฐานะอะไรนัก แต่พ่อตาแกะผ้าออกมามี
สินสอดให้ผมเป็นกอบเป็นกำ ผมซาบซึ้งจนพูดไม่ถูกจริงๆ จนวันสุดท้ายผมก็ยังรักเขาจนหมดหัวใจ ผมคิดเสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้อง
ดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะให้สัญญากับพ่อเขาไว้แล้ว ก็ต้องยึดถือสัจจะของตัวเองผมเป็นคนที่ยึดถือเรื่องนี้มาก ถ้าเคยให้สัจจะกับใครแล้วจะไม่มีวันลืม”
