‘ดามพ์ ดัสกร’ ดาวร้ายในตำนาน
สำหรับ ‘ดามพ์ ดัสกร’ นักแสดงผู้รู้จักกันดีในบทของดาวร้ายในอดีต มีชื่อจริงว่า ‘ดามพ์ เผด็จดัสกร’ หลายคนคุ้นหน้าตา ของเขาดี
ในฐานะนักแสดงบทดาวร้าย ซึ่ง ‘ดามพ์ ดัสกร’ ก็เรียกได้ว่าฝากผลงานการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์มาเยอะมากกว่า 300 เรื่องเลยทีเดียว
ปัจจุบัน ‘ดามพ์ ดัสกร’ อายุกว่า 76 ปีแล้ว แต่มาดความหล่อนักแสดงอาวุโสคนนี้ก็ยังไม่จางหายไปเลยทีเดียวทางด้านชีวิตส่วนตัวของ ‘ดามพ์ ดัสกร’
อดีตดาวร้ายในตำนานคนนี้ เกิดวันที่ 20 มิ.ย.2488 พื้นเพเป็นชาวจังหวัดสงขลา มีพี่น้อง 7 คน โดย ‘ดามพ์ ดัสกร’ เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด
และชีวิตของ ‘ดามพ์ ดัสกร’ ก่อนจะเข้าสู่วงการแสดงและเป็นดาวร้ายที่โด่งดัง เขาเคยเล่าย้อนอดีตก่อนให้ฟังว่า สมัยยังเป็นวัยรุ่นเขามีความฝัน
ที่จะเป็นพระเอก โดยมี ‘มิตร ชัยบัญชา สมบัติ เมทะนี’ เป็นแบบอย่างเพราะสมัยที่เป็นนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนกระจ่างวิทยา จังหวัดชุมพร ด้วยหน้าตา
และหุ่นของเขาที่มีกล้ามและร่างกายกำยำ ก็มักจะถูกเพื่อนๆ แซวว่าเป็นมาดพระเอกอยู่เป็นประจำ เพราะด้วยคำพูดนี้จึงทำให้เขามีแรงบันดาลใจและ
ความฝันอยากจะเป็นพระเอกในสักวัน หลังจากนั้น เมื่อเรียนจบ ‘ดามพ์ ดัสกร’ ก็ได้เริ่มเข้าทำงานในตัวเมืองกรุงเทพที่สนามมวยราชดำเนินในแผนก
เจ้าหน้าที่ต้อนรับชาวต่างชาติที่เข้ามารับชม หลังจากนั้น ก็ถูกชักชวนให้ไปเล่นภาพยนตร์ของ ‘มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล’ เรื่องแรกคือ ‘หญิงก็มีหัวใจ’ เมื่อปี
พ.ศ. 2513 โดยบทแรกเริ่มเขาได้เล่น เป็นดาวร้าย แต่ส่วนไม่ชอบเพราะมีความตั้งใจไว้ว่า อยากเป็นพระเอก แต่ก็ได้เพื่อนฝูงพูดให้กำลังใจไว้ว่า
“การเป็นตัวเอกในเรื่องต้องเริ่มจาก ตัวประกอบก่อน เพราะบทเล็กๆ แรกๆ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการภาพยนตร์เท่านั้น” หลังจากนั้น ‘มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล’
ก็เป็นผู้ปั้นให้ชื่อเสียงของ ‘ดามพ์ ดัสกร’ โด่งดังอย่างมากในบทดาวร้าย หลังจากนั้นเขาเริ่มเปลี่ยนความคิดที่ว่า “การเป็นดาวร้ายดีกว่าเป็นพระเอก”
โดย’ดามพ์ ดัสกร’ ให้เหตุผลว่า พระเอกถ่ายหนังได้ครั้งละเรื่อง และหนังแต่ละเรื่องส่วนใหญ่จะมีเพียงคนเดียว แต่ดาวร้ายเรื่องเดียวมีหลายคน จึงทำให้ได้
เล่นหนังกับพระเอกเกือบทุกเรื่อง ส่วนผลงานที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็มาจากเรื่อง ‘ทอง ภาค 1’ นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นอำนวยการสร้างภาพยนตร์และกำกับ
ภาพยนตร์เรื่อง “ดาวพระเสาร์” ในปี พ.ศ. 2525 อีกด้วย แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นก็ได้มีผลงานการแสดงละครกับช่องมากสีอีกหลายเรื่อง
เคยได้รับรางวัลดาวร้ายยอดเยี่ยม จากการประกวดรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ ‘เมขลา’ ปี พ.ศ. 2538 จากบท ‘เศรษฐีจอม’ ในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘มนต์รักลุกทุ่ง’
