บันเทิง
‘หนิง ศรัยฉัตร’ ทายาทตระกูล ‘กุญชรฯ’
‘หนิง ศรัยฉัตร’ ทายาทตระกูล ‘กุญชรฯ’
สำหรับอดีตดารานักแสดง ‘หนิง ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์’ ก็เป็นอีกหนึ่งที่สืบสายจากตระกูล ‘กุญชร ณ อยุธยา’โดยเจ้าตัว ‘หนิง ศรัยฉัตร’
ก็เคยเล่าถึงเรื่องราวที่เจ้าตัวเก็บไว้ในใจมากว่า 10 ปี “คุณทวดของหนิงคือ ม.ล.ตุ่ม กุญชร ส่วนคุณปู่คือ อ.สุชาติ กุญชร ณ อยุธยา คุณพ่อคือ คุณไอราวัญ
กุญชร ณ อยุธยาค่ะ พอคุณแม่แยกทางกับคุณพ่อ และแต่งงานใหม่เราก็ไม่รู้จะใช้นามสกุลไหน หนิงก็เลยกลับมาใช้กุญชรอีกครั้งค่ะ” ซึ่งคุณแม่ของสาว ‘หนิง ศรัยฉัตร’
ก็คือ ‘พ.ต.ท.หญิง ณัฐวินุชหัสดินทร์ ณ อยุธยา’ ที่เคยโด่งดังจากการโฆษณานมชื่อดัง ปัจจุบันถึงแม้ ‘หนิง ศรัยฉัตร’ จะไม่ค่อยได้เห็นผลงานของเธอในฐานะ
นักแสดงสักเท่าไหร่ เพราะเธอนั้นหันไปเอาดีด้านการเป็นพิธีกรตามงาน และรายการต่างๆ แถมยังเป็นนักพูดนักเขียน สร้างแรงบันดาลใจอีกด้วย อีกทั้งปัจจุบันยังทำหน้าที่
เป็นคุณแม่เต็มตัว พร้อมกับบุตรสาว ‘น้องเบลล่า’ คนเก่ง นักกีฬาบัลเล่ต์ ที่ได้มีโอกาสไปแข่งขันถึงต่างประเทศ พร้อมกวาดรางวัลมาให้ครอบครัวมากมากมาย
โดยก่อนหน้านี้ ‘หนิง ศรัยฉัตร’ ก็เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเธอไว้ว่า “เรามีบุตรสาวก็อยากให้เรียนบัลเล่ต์ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาไกลขนาดนี้ค่ะ
ตอนเบลล่าอายุได้ขวบกว่าเคยพาเขาไปตรวจสอบและประมวลผลว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร ถนัดอะไร ก็ได้ผลวิเคราะห์ว่าน้องเหมาะจะเป็นนักเต้น ตอนนั้นนึกภาพไม่ออกเลยค่ะ
ว่าบุตรสาวเราจะเป็นแดนเซอร์ได้ยังไง เพิ่งมานึกได้ตอนเบลล่าได้แชมป์ที่หนึ่งของประเทศว่า น้องเบลล่ามีพรสวรรค์ทางนี้จริงๆค่ะ หนิงมองว่าการเต้นไม่ได้แค่สอนให้น้องเต้นเป็น
แต่ทำให้น้องมีทักษะการเข้าสังคม เขาได้เรียนรู้ความสมหวังและความผิดหวัง พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์ตัวเอง เช่นในวันที่เบลล่าได้ถ้วยรางวัลที่ 1 หนิงถามว่าทำไม
หนูไม่ยิ้มเลย เขาตอบว่าเพื่อนรักหนูไม่ได้รางวัล เราเลยรู้ว่าน้องกำลังถนอมน้ำใจเพื่อน ก่อนขึ้นเวทีครูจะสอนรู้จักอ่อนน้อมให้ถ่อมตนอยู่เสมอ เพราะขณะที่เรากำลังดีใจอยู่นั้น
มีคนอื่นเสียใจอยู่ เบลล่าจะคิดถึงเพื่อนๆอยู่ตลอด เพราะการเต้นประเภทคู่และกลุ่มต้องการทีมเวิร์กสูงมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือหนิงยกคะแนนความทุ่มเทให้น้องเต็มที่เลย เพราะต้องซ้อม
ท่าเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วงที่ต้องไปแข่งอาจจะซ้อมตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็มี นักเต้นมีความอดทนและมีวินัยสูงเหมือนนักกีฬา ครูสอนทักษะการเต้น แต่หนิงเป็นเหมือนโค้ชคอยให้กำลังใจ
ให้เขาสบายใจที่สุดว่าอยู่กับเราแล้วเขาบ่นได้ เหนื่อยได้ แต่แค่ชั่วครู่แล้วต้องเรียกสติกลับคืนมา และเมื่อได้รางวัล เขาเกิดการเรียนรู้ว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากหมั่นทำด้วยตัวเอง
ซึ่งไม่มีอะไรเกินความสามารถไปได้ ทุกวันนี้หนิงเริ่มมีความสุขกับการเป็นแม่มากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าการมีบุตรทำให้จุดมุ่งหมายในชีวิตเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยคิดถึงตัวเองก่อน พอมีน้องเบลล่า หนิงก็จะคิดถึงเขาก่อนเสมอ หนิงตั้งใจว่าจะเลี้ยงเขาอย่างเข้าใจธรรมชาติของเขาให้มากที่สุด จะไม่บังคับหรือควบคุมให้เป็นไปตามต้องการเพราะวันหนึ่งเขาก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง”
