ปัจจุบัน ‘เอส วรฤทธิ์’
ในทุกยุค-สมัยของวงการบันเทิงในประเทศไทยนั้นมีนักแสดงมากมายที่เริ่มต้นเส้นทางการทำงานของพวกเขาจากการทำงานเป็นนายแบบ รวมไปถึง ‘คุณเอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย’
นักแสดง พิธีกร นายแบบหนุ่มหล่อ ที่เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2542 ท่านนี้นั้น ถือเป็นนักแสดง อีกท่านหนึ่งและมีผลงานที่มีความโดดเด่น
ในด้านของโฆษณาตั้งแต่ในช่วงแรกของการทำงานในฐานะนายแบบโฆษณา โดยผลงานที่โดดเด่น มากจากโฆษณากาแฟคู่กับ ‘ครีม เปรมสินี รัตนโสภา’ ส่วนด้าน
ชีวิตส่วนตัวของ ‘เอส วรฤทธิ์’ ก็คบหากับดีเจ ‘พี่ฉอด’ มานานหลายสิบปี และหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ‘เอส วรฤทธิ์’ ก็มีบุตรชายที่ดูแลฟูมฟักด้วยรักมา
ตั้งแต่ยังเล็ก ก็คือ ‘น้องด้อล วรกิตต์ ไวยเจียรนัย’ ซึ่งเป็นบุตรของพี่ชายแท้ๆ ของ ‘เอส วรฤทธิ์’ แต่ด้วยความผูกพันที่ดูแลกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เอส วรฤทธิ์’
จึงรักมากและให้หลานแท้ๆ ‘น้องด้อล’ เรียกว่าว่า ‘พ่อ’ แต่ที่ผ่านมา ‘เอส วรฤทธิ์’ ก็ไม่ค่อยจะเปิดเผยเรื่องชีวิตส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก โดยปัจจุบัน ‘เอส วรฤทธิ์’
ก็ห่างหายจากการทำงานเบื้องหน้าในฐานะนักแสดง พิธีกร มาทำงานเบื้องหลังเป็นผู้ควบคุมสายงานการผลิตละคร ร่วมกับดีเจ-พิธีกร ชื่อดัง ‘พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา’
โดยก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการหันมาทำเบื้องหลัง ผลิตละครว่า “คิดว่าการที่เราเริ่มมาทำเบื้องหลัง มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มันเกิดขึ้นกับตัวเรานะ
บางทีเราทำอะไรมานานๆ แล้ว มันเหมือนรีสตาร์ทตัวเองใหม่ ก็รู้สึกสนุก และยิ่งโชคดีมั้งปีที่แล้วได้รับการตอบรับที่ดี เลยมีผลพวงมาปีนี้ ก็เลยได้คุยกับคนเยอะ
ได้คุยกับช่องใหม่ๆ เลยคิดว่าดีมากจริงๆ ที่เราได้มาทำเบื้องหลัง” ‘เอส วรฤทธิ์’ เผยต่ออีกว่า “ผมว่าโอกาสมันสั้นนะ หมายถึงงานต่องาน พอเราได้แล้วเรา
ทำต่อ โชคดีที่งานมันโดน มันก็ส่งผลให้มีการพูดคุยถึงงานในปีนี้ และปีนี้ถ้ายังทำโดนก็คิดว่าคงได้ไปต่อ แต่ถ้าปีนี้ไม่โดน ปีหน้าอาจจะงานน้อยลงก็ได้ มันเป็น
วัฎจักรปกติเลย” ได้มีโอกาสดึงดารารุ่นเก่าๆ มาแสดงด้วย “ผมมองว่าอย่างกรณีพี่แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี จริงๆ แล้วทุกๆ คนถ้าใครได้เคยทำงานในวงการนี้
แล้วและวันนึงหายไปนาน มันมีความคิดถึงอยู่แล้วล่ะครับ และพอวันนึงกลับมาทุกคนก็คงต้องคิดเยอะว่ากลับมาแล้วทำอะไร กลับมาแล้วจะคุ้มไหม มันมีความ
กังวลสูง แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่นักแสดงทุกคนต้องการคือบท บทที่ดีที่เขาจะได้ถ่ายทอด และพอเขารู้สึกว่าตรงนี้มันใช่เขา เขาก็พร้อมจะเต็มที่ ผมว่ามันเป็นความ
ลงตัวระหว่างกัน มันเป็นความโชคดีของพวกผมด้วยนะ” ก็เป็นอีกหนึ่งดารานักแสดงที่มีความสามารถ นำประสบการณ์ในวงการบันเทิงต่อยอดทำละคร และเป็นผู้บริหารได้ดี น่าชื่นชม
