สามี ‘บัวชมพู ฟอร์ด’
ชายหนุ่มผู้พิชิตหัวใจของนักร้องสาว “บัวชมพู ฟอร์ด” ไปครองได้นั้น เป็นหนุ่มนอกวงการมีนามว่า “ช้าง-สมประสงค์ สหวัฒน์” วัย 32 ปี หนุ่มเจ้าของกิจการเฟอร์นิเจอร์ตระกูลดัง 1 ในคณะผู้บริหาร วนชัย กรุ๊ป
จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ การพัฒนาระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ความรักของทั้งคู่ เหมือนบุพเพสันนิวาส เมื่อเขาทั้งคู่รู้จักกันในช่วงเวลาที่ต่างคน
ก็ต่างโสดสนิท โดยมีเพื่อนของเพื่อน (บัวชมพู) เป็นคนแนะนำให้รู้จักกัน จากนั้นก็สานสัมพันธ์อันดีกันเรื่อยมา เดิมที… บัวชมพูบอกว่าไม่ได้ชอบหนุ่มช้างตั้งแต่แรกพบ แต่พอคุยกันไปศึกษากันไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง
จึงรู้สึกว่า “ใช่” และเกิดความเข้าใจจนก่อตัวมาเป็น “ความรัก” ในที่สุด และก่อนหน้านีได้มาเปิดใจถึงการแปรเปลี่ยนมาเป็นการทุ่มเทชีวิตเพื่อบุตร และสามีในฐานะ “ผู้สร้าง” และ “ผู้ดูแล” จากสาวน้อยตัวเล็กๆ
ที่ชอบทำงาน และมีความสุขกับการร้องเพลง หลังตัดสินใจอำลาวงการไปมีชีวิตคู่กับ “คุณช้าง-สมประสงค์ สหวัฒน์” และมีครอบครัวด้วยกัน ชีวิตก็มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่โตขึ้น “ปกติแล้วบัวเป็นคนชอบ
ทำงานค่ะ ไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไร แต่พอแต่งงานแล้วชีวิตของบัวเปลี่ยนไปมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตบัวเลยก็ว่าได้ พอมามีบุตรและกลายเป็นคุณแม่ ชีวิตก็อยากอยู่กับบุตร และดูแลบุตรมากขึ้น”
คุณแม่หน้าหวานเริ่มเล่า เธอขยายความต่อไปถึงการได้อยู่กับบุตรว่าเป็นความสุขที่ไม่อยากออกไปไหนเลย “ถ้าพูดถึงความสุขแล้ว มันมีมากกว่าความเหนื่อยนะ เพราะได้เห็นเขาเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน มีพัฒนาการ
ที่ดีขึ้น เวลาเขาอยู่กัน 3 คนนี่วุ่นวายมาก คนเล็กก็อยากเล่นกับคนโต คนโตก็อยากเล่นกับคนเล็ก บรรยากาศแบบนี้มันก็เป็นความสุขที่เรียกได้ว่าไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลย ทั้งๆ ที่ตัวบัวเองเคยเป็นคนทำงาน
นอกบ้านตลอด แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นแม่คน บัวก็หยุดทุกอย่าง และอยู่บ้านเลี้ยงบุตร” แต่เมื่อถามถึงความเหนื่อย แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องเผชิญ เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านนี้ที่ดูเหมือน
จะเหนื่อยกว่าครอบครัวอื่นๆ หลายเท่า เพราะมีบุตรฝาแฝดที่ต้องเลี้ยงดูไปพร้อมๆ กับบุตรชายอีกหนึ่งคน เธอเล่าถึงความเหนื่อย กระนั้น แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยขนาดไหน แต่เพื่อบุตร เธอยอมได้เสมอ
เพราะขนาดแม่คนเดียว ยังเลี้ยงเธอให้เติบโตขึ้นมาได้ อีกทั้งเวลาเหนื่อย หรือท้อแท้ คุณแม่ไม่เคยแสดงความท้อแท้ให้บุตรเห็นเลยสักครั้ง ดังนั้น แม่จึงเป็นฮีโร่ และเป็นต้นแบบที่ทำให้เธอเห็นว่า เราสามารถยืนอยู่
ได้ด้วยตัวเอง และดูแลครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพ อนาคตต่อจากนี้..วันนี้ ไม่เพียงแต่ความทุ่มเทเพื่อบุตรเท่านั้น เธอยังมีแพลนว่าจะทำกิจการเสื้อผ้าด้วย “ตอนนี้นอกจากเป็นคุณแม่เลี้ยงบุตรแล้ว บัวกำลังทำ
แบรนด์เสื้อผ้าค่ะ ซึ่งทำกันหลายคน ส่วนฤกษ์เปิดตัวคงรอกันอีกสักนิดนึง เพราะตอนนี้เพิ่งเริ่มๆ ทำกันค่ะ” ส่วนงานในวงการ เป็นสิ่งที่เธอคิดถึง และอยากกลับไปทำ แต่ขอเลี้ยงบุตรให้โตกว่านี้ก่อน “คืองานในวงการ
เวลาเห็นคนอื่นทำแล้ว บัวก็รู้สึกอยากทำตลอด รู้สึกคิดถึงมากๆ แต่อีกใจก็ไม่อยากทิ้งบุตรเลย เพราะชีวิตตอนนี้คงไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเนอะ แต่ใช้ชีวิตเพื่อบุตร อะไรก็บุตรมาก่อนเสมอ อดหลับอดนอน อดข้าวก็ไม่เป็นไร
พูดง่ายๆ คือ บัวเป็นคนห่วงความรู้สึกของบุตรค่ะ เราอยากเลี้ยงเขาด้วยความรัก และความเข้าใจ อยากเห็นเขาทุกวัน เล่นกับเขา สนุกกับเขา เพราะบัวมองว่า ความรักของพ่อแม่จริงๆ มันคือความเสียสละเพื่อบุตร
