อดีตพระเอก ‘เล็ก ไอศูรย์’
เป็นอีกพระเอกรุ่นใหญ่ที่มีผลงานมากมาย และโด่งดังมาก เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาในวงการบ้านเทิงเหมือนหลายสิบปีที่แล้ว หลังจากพระเอกชื่อดังอย่าง ‘เล็ก ไอศูรย์’
ถ่ายแบบนุ่งน้อยห่มน้อย จนทำให้เขาถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก แต่เป็นในเชิงที่ไม่ได้ดีนักเพราะสมัยก่อนการถ่ายภาพแนวนี้อาจจะไม่ถูกจริตในสังคมไทยเท่าไหร่นัก หลัง
จากนั้น เจ้าตัว ‘เล็ก ไอศูรย์’ ก็หายไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างประเทศ และก่อนหน้านี้ ‘เล็ก ไอศูรย์’ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวในการถ่ายภาพ เผยชีวิต
ครอบครัว และเบื้องหลังงานในครั้งนั้น ว่า “เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เป็นเพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่าไม่ค่อยดีนัก แล้วผมทำกิจการเกี่ยวกับส่งออก ก็เลยติด
ขัดในเรื่องนั้นมากๆ มีภาระเกือบ 18 ล้าน มันเป็นอะไรที่สุดๆแล้วครับตอนนั้น พึ่งพาใครไม่ได้นอกจากตัวเราเอง หลังจากถ่ายในครั้งนั้นผมไม่กล้าออกบ้านเลยนะ
ตอนแรกก็กังวลใจอยู่ แต่เพราะต้องออกไปทำงาน ไปถ่ายละคร ทุกคนก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเสมอ ผมก็ยังอุ่นใจ แต่บางคนก็ไม่เข้าใจผมเลยครับ ยังคงมีคนมา
ต่อว่าอยู่” เห็นว่าย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว? “ใช่ครับ ไปอยู่กับคุณแม่ที่ประเทศเดนมาร์ก อยากเฟดตัวออกจากวงการให้มากที่สุด ด้วยข่าวที่ออกไป ผมยังคง
รับไม่ได้ ส่วนผลตอบแทนที่ได้ในการถ่ายภาพครั้งนั้นก็ประมาณ 9 ล้านกว่า สมัยนั้นถือว่าเยอะมากเลยนะครับ แต่ตอนนั้นก็มีผู้หญิงมาเสนอ อยากจะช่วยเหมือนกัน
แต่ผมก็รับไว้ไม่ได้” แล้วครอบครัวเป็นไงบ้าง? “ผมมีภรรยาครับ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานเกิน 30 ปี แล้ว แต่ไม่ได้แต่งงาน เพราะสังคมไทยสมัยนั้น ไม่ค่อยยินดี
เท่าไหร่ในการที่จะมีแฟน หรือเปิดตัวคบกัน แล้วผมกับภรรยาก็มีทายาทเป็นบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ตอนนี้ก็เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ครอบครัวผมให้กำลังมาตลอด
ภรรยาคอยอยู่เคียงข้างมาเสมอ” แล้วได้มีโอกาสกลับมาทำงานในวงการบ้างไหม? “ตอนนี้ก็ทำกิจการที่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย แล้วก็มีรับงานละครบ้าง ก็ทำควบคู่
กันไปครับ แล้วก็มีเป็นที่ปรึกษาให้กิจการที่ประเทศเดนมาร์ก แต่ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเองนะครับ เป็นลูกจ้างเขานี่แหละ ไม่ได้เป็นเศรษฐีรวยพันล้าน แบบที่ใครๆ เขาลือกัน”
และถ้าพูดถึงผลงานของ ‘เล็ก ไอศูรย์’ ที่ผ่านมา เริ่มต้นเข้าสู่วงการด้วยการเป็นนายแบบของงานแฟนชั่นโชว์สปอร์ตคลับ และได้ ‘เวณิก เจริญปุระ’ แนะนำให้
ไปถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารชื่อดังในสมัยนั้น และมีผลงานออกมาต่อเนื่อง เขาได้เป็น 1 ใน 5 นายแบบยอดนิยมประจำปี พ.ศ. 2530 จากนั้นจึงได้เข้าสู่วงการแสดง
ทางจอโทรทัศน์เรื่องแรกคู่กับ ‘นก สินจัย’ และทางช่องมากสีจากเรื่อง ‘แววมยุรา’ หลังจากนั้นก็มีผลงานการแสดงมากมายหลายเรื่อง และยังความสามารถท้างด้านภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และอีกกว่า 5 ภาษา เลยทีเดียว
