บันเทิง
‘ทีน’ แต่งงาน 15 ปี
‘ทีน’ แต่งงาน 15 ปี
สำหรับดารานักแสดงพิธีกรอารมณ์ดีอย่าง ‘ทีน สราวุฒิ พุ่มทอง’ และเป็นอดีตนักร้องมีผลงานอัลบั้มเพลงในนามศิลปินกลุ่ม ‘ทีนเอจเกรดเอ’ ส่วนผลงานการแสดงละคร
ก็มีมากมายหลายเรื่อง เช่น ‘เรื่องฉลุย, ถนนสายหัวใจ, เจ้าบ่าวก้นครัว’ และผลงานภาพยนตร์ เช่น ‘หลวงพี่เท่ง, เสือภูเขา’ และอีกมากมาย รวมไปถึงผลงานพิธีกร
รายการโทรทัศน์อีกด้วย ด้านชีวิตครอบครัวและชีวิตรัก ‘ทีน สราวุฒิ’ ได้แต่งงานกับแฟนสาวนอกวงการอย่าง ‘น้อง วิฤดา สุนทรศิริ’ เมื่อปี พ.ศ. 2550 ท่ามกลางเพื่อนพ้อง
ในวงการร่วมยินดีกันอย่างมากมาย โดยครั้งนั้นเจ้าตัว ‘ทีน สราวุฒิ ‘ ประกาศลั่นพร้อมเปิดอู่ผลิตทายาททันที โดยทั้งคู่เปิดใจกลางงานวิวาห์หวานไว้ว่า ทางด้านเจ้าสาวเผยว่า
“ทีนเป็นคนน่ารัก ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับผู้ชายแบบนี้ แต่เสียอย่างเดียวเป็นคนขี้เซา ชอบนอน กลับมาก็จะนอนอย่างเดียว แต่ทีนเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ รู้สึกดีใจที่ได้
แต่งงานกับผู้ชายคนนี้” เจ้าบ่าวบ้าง “รู้สึกดีใจและตื่นเต้น หลังจากหมั้นก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันระยะหนึ่งก็แฮปปี้มีความสุขดี ได้อยู่ดูแลกัน ได้รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ปัญหาเกิด
จากอะไรและจะไม่เดินหนีปัญหา ตอนนี้เราก็เรียกพ่อเรียกแม่กันแล้ว เรื่องเงินตอนนี้ก็ให้แม่หมดแล้ว ส่วนเรื่องฮันนีมูน เราก็จะไปที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นช่วงที่ที่นั่น
หนาวพอดี เราไปด้วยกันจะได้อบอุ่น ก่อนที่จะกลับมาทำงานกันต่อ และน้องต้องติดตามงานอยู่ตลอด เหนื่อยมาทั้งชีวิต อยากให้เขาได้พักผ่อนบ้าง ตอนแรกอยากไปที่ประเทศ
ออสเตรีย แต่ทัวร์เต็มหมดแล้ว จนมาได้ที่ลอนดอน ซึ่งมาได้ของเพื่อนพี่ลิงกับเอ๊าะก็เลยได้ไปที่นี่ ส่วนเรื่องทายาทก็อยากจะมีเลย แต่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ผมอยากได้
บุตรสาวนะ แต่น้องอยากได้บุตรชาย แต่จะเป็นยังไงก็รักเหมือนกันหมดอยู่แล้วครับ จะกี่คนก็เลี้ยงได้หมดครับ” หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ ‘ทีม สราวุฒิ’ และ ‘น้อง วิฤดา’
ก็ยังไม่ทายาท และยังไม่มีวี่แวว ว่าจะมีโซ่ทองคล้องใจกับเขาสักที เจ้าตัวเผยว่า อยากมีทายาทด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่อยากเพิ่งพาทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
ส่วนพ่อตาแม่ยาย ก็เร่ง อยากจะมีบุตรหลาน แต่ก็คุยกับทางญาติผู้ใหญ่แล้ว ถ้าทายาทยังไม่มาก็คือจะไม่มีแล้ว เพราะด้วยอายุที่มากขึ้น โดย ‘ทีน สราวุฒิ’ ให้สัมภาษณ์
ไว้ว่า “เราไปตรวจกันที่ รพ. บีเอ็นเอช คือไปตรวจทั้งตัวเอง และภรรยา ก็ปกติดี ไม่มีอะไร แต่อาจจะเป็นเพราะ ทั้งคู่ทำงานหนักมากมั้ง การทำกิฟท์ผมว่ามันเป็นการฝืนเกินไป
ผมอยากใช้วิธีธรรมชาติเท่าที่จะทำได้ พ่อตากับแม่ยายเร่งมาก อยากให้มี พ่อก็บอกทำกิฟท์ไหม เพราะพ่อก็เป็นหมอ เพื่อนพ่อก็เป็นหมอ แล้วผมก็มีเพื่อนที่ทำงานอยู่สถาบัน
เกี่ยวกับการแพทย์ แต่ผมก็พยายามอยู่ ส่วนวิธีอุ้มบุญก็คงไม่เอาหรอก เกรงใจคนอื่นเขา อย่างที่บอกขอพึ่งวิธีธรรมชาติก่อน ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร จะรับมาเป็นบุตรบุญธรรมไหม อันนั้นเดี๋ยวดูอีกที”
