บันเทิง
ทายาท ‘เอ๊าะ กีรติ’
ทายาท ‘เอ๊าะ กีรติ’
สำหรับนักแสดงพิธีกรหนุ่มชื่อดังมากความสามารถ อย่าง ‘เอ๊าะ กีรติ เทพธัญญ์’ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเขาได้คบหากับสาวนอกวงการอย่าง ‘ก้อย วิภาวี’ และได้มีทายาทเป็นบุตรชาย
ด้วยกันหนึ่งคนชื่อ ‘น้องวิน’ ที่กำลังอยู่ในวัยน่ารัก และเพิ่งได้เข้าโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน หนุ่ม ‘เอ๊าะ กีรติ’ ก็ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับครอบครัวของเขาผ่านรายการโทรทัศน์
รายการหนึ่งไว้ถึงการมีชีวิตอีกบทบาทหนึ่งในการเป็นทั้งคุณพ่อของบุตรชาย และเป็นสามีหัวหน้าครอบครัว ว่า “เราไม่คิดว่า ชีวิตการเป็นพ่อคน มันจะดีขนาดนี้ ตอนนี้โอเคครับ ชอบมาก
ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้ ผมจะมีตั้งแต่อายุ 20 ปีเลย ซึ่งตอนนี้ น้องวินก็อยู่ในวัยกำลังอยากเรียนรู้ วัยกำลังโตเลยครับ” ทำไมเพิ่งเปิดตัวว่ามีครอบครัว? “ผมแต่งงานกันเงียบๆ จัดกันที่บ้านเล็กๆ
คือฝั่งของคุณก้อย เจ้าสาว และฝั่งของผม ญาติๆ แล้วก็มีคุณเสนาลิงคนเดียวเองครับ เข้าพิธีทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็มากินข้าวกัน เพราะว่าช่วงปี 57 เป็นช่วงที่ออฟฟิศยุ่งมาก ทำพิธีหมั้น
หมายแต่งงานอะไรเสร็จ ผมก็ทำกิจการต่อเลย เพราะต้องบินไปต่างประเทศด้วย และที่เพิ่งเปิดตัวเรื่องครอบครัว ผมเชื่อว่าหลายๆ คนเห็นผมตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ เมื่อตอนเข้าวงการใหม่ๆ
ตอนนี้ผมก็สี่สิบกว่าแล้ว แต่เรื่องครอบครัวก็เป็นชีวิตอีกด้านหนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยให้คนเห็นเท่าไร ผมว่าพวกเขาน่ารักเกินที่ผมจะเก็บไว้ดูคนเดียว พี่ๆ คงอยากเห็นเหมือนกัน ผมก็แค่คิด
ว่ามันเป็นเรื่องราวดีๆ ก็อยากจะฝากครอบครัวไว้กับพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย” ความรักครั้งนี้จุดเริ่มต้นกับภรรยา ‘คุณก้อย’ เป็นมายังไง? “เราทำอีเว้นต์อยู่แล้ว เขาเป็นโคฯที่ต้องดิวกับเรา เจอ
ตอนทำงาน แล้วหน้าเขานิ่งๆ แล้วก็เริ่มจีบเขา ก็คุยเป็นเพื่อนกันเรื่อยๆ ตอนนั้นก็ชอบ แต่ไม่ถึงขั้นรักอะไรมาก ไปหาเอาขนมไปให้ ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงถูกใจเรา ก็เพราะว่า เขา
ไม่เคยถามว่าผมอยู่ไหน ทุกวันนี้ก็ไม่เคยถาม แต่ใช้วิธีอยู่ด้วย” สมัยก่อนเคยลำบากขนาดไหน กว่าจะมีวันนี้ได้? “ตอนเล็กๆ ผมกับน้องสาว กินข้าวกับน้ำปลา เราเห็นแม่ทำงานมาตลอด
ตื่นเช้าเราก็ได้เจอแม่นิดเดียว คือตอนนั้นเราอยู่ประถมฯ กินข้าวกับน้ำปลา แล้วก็ทำการบ้านเสร็จก็นอน แต่ได้เรียน ร.ร. ดีๆ คือ แม่พยายามส่งเสีย ให้เรา ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดใน
สมัยนั้น พอวันที่เข้าวงการ ผมก็บอกแม่เลยว่า ให้แม่หยุดงานทุกอย่าง เดี๋ยวผมดูแลเอง ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้อะไรเลย วางแผนไม่เป็นด้วย ว่าต้องแพลนยังไงให้การเงินแข็งแรง ผมคิดว่า
ถ้าผมมีโอกาส ผมจะทำให้ครอบครัวสบายใจมากที่สุด ตอนนั้นมีแค่ความมั่นใจ ให้แม่ออกจากงาน แล้วเราดูแลเอง คือผมไม่เคยเห็นแม่บ่นเลย” แล้วตอนนี้ใครเป็นคนดูแลเรื่องเงิน?
“แม่ครับ แม่เก็บมาตลอด เราก็ขอเป็นรายวันตลอด ตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ ตอนอายุ 19 ปี ได้ตำแหน่งนายแบบ ตอนนี้เรามีทายาทมีครอบครัว แม่ก็เป็นคนเก็บอยู่ คือ ชีวิตครอบครัว
ต้องแบ่งเงินไว้ หลายๆ ส่วน อย่างที่บอกพอผมมีรายได้หนึ่งก้อนก็ให้แม่เก็บแล้ว ผลขอเป็นรายวัน พอมีครอบครัวผมก็มีเงินเดือนของผมไว้ให้ภรรยาเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ส่วนภรรยาก็จะมีเงินสำหรับตำแหน่งผู้จัดการของกิจการผมด้วย รวมกันก็หลักแสนอยู่ครับที่ให้ภรรยา”
