บันเทิง
‘ดามพ์ ดัสกร’ ยังหล่อเท่ในวัย 70
‘ดามพ์ ดัสกร’ ยังหล่อเท่ในวัย 70
สำหรับอดีตดารานักแสดงดาวร้ายอันหนึ่งของไทยในยุคสมัยหนึ่งเลยก็ว่าได้อย่าง ‘ดามพ์ ดัสกร’ หรือสกุลจริง ‘เผด็จดัสกร’ โดยปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ธนฤกษ์ ธัญมงคล’
และมีชื่อเล่นว่า ‘เบิ้ม’ ดาวร้ายที่มีผลงานกว่า 300 เรื่อง ปัจจุบันก็อยู่ในวัย 72 ปีแล้ว แต่หุ่นก็ยังดูสมาร์ทแมน ไม่มีเปลี่ยน เหมือนครั้งยังเป็นหนุ่มๆ แถมมาดดาวร้ายก็ยังมีอยู่
ไม่ร่วงโรยไปตามกาลเวลาเลยทีเดียว ก่อนจะเริ่มเข้าสู่วงการแสดงและเป็นดาวร้ายที่โด่งดังนั้น ‘ดามพ์ ดัสกร’ เล่าย้อนอดีตก่อนให้ฟังว่า “มีความฝันที่จะเป็นพระเอก โดยมี มิตร ชัยบัญชา,
สมบัติ เมทะนี เป็นแบบอย่าง เพราะสมัยที่เป็นนักเรียนอยู่ที่ จ.ชุมพร นั้น ด้วยหน้าตาอันคมเข้ม ร่างกายกำยำ เวลาเดินไปไหนมาไหนใครๆ ก็จะทักทายว่า พระเอกไปไหน”
จนทำให้เขามีแรงบันดาลใจในการทำอาชีพนักแสดง ส่วนเส้นทางเริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงมาจากการชักชัวของ ‘มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล’ เมื่อครั้งยังเป็นพนักงานต้อนรับชาวต่างประเทศที่
‘สนามมวยราชดำเนิน’ หลังจากนั้น ได้มีโอกาสร่วมโชว์ฝีมือการแสดงโดยได้รับบทดาวร้ายครั้งแรกใน ภาพยนตร์ 16 มิลลิเมตร ‘เรื่องหญิงก็มีหัวใจ’ ฉายในปี พ.ศ. 2513 หลังจากนั้น
ได้เป็น พระเอกในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘ปิง วัง ยม น่าน’ โดยได้แสดงประกบคู่กับ นางเอกสาว ‘ศิรินธร ศรอนงค์’ ส่วนภาพยนตร์สร้างชื่อที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ
‘ทอง ภาค 1’ ซึ่งเป็นเรื่องแรกของพระเอกดัง ‘สรพงษ์ ชาตรี’ นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังมีโอกาสได้ไปเป็นอำนวยการสร้างภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘ดาวพระเสาร์’
ในปี พ.ศ. 2525 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นก็ได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง โดยการชักนำของ ‘ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก’ ให้มารับบทดาวร้ายในละคร
โทรทัศน์ของช่องมากสี หลายเรื่อง เช่น ‘เมืองโพล้เพล้, มนต์รักลูกทุ่ง, แม่นาคพระนคร, ปะการังสีดำ, ขุนเดช, นางแมวป่า, ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว’ และ ‘ดามพ์ ดัสกร’ เคย
ได้รับรางวัลดาวร้ายยอดเยี่ยม จากการประกวดรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ ‘เมขลา’ ในปี พ.ศ. 2538 จากบท ‘เศรษฐีจอม’ ในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘มนต์รักลูกทุ่ง’ โดยก่อน
หน้านั้น ‘ดามพ์ ดัสกร’ เล่าว่า “ตอนแรกคิดจะถอดใจกับการเป็นบทดาวร้ายเพราะอยากเป็นพระเอกมาก ได้เล่นภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ดาวร้ายเดินถือเป้ทหาร เดินตามหลังดาวร้าย
เฉลิมกรุง มันขัดกับความตั้งใจที่อยากเป็นพระเอก เลยคิดว่าลองดูสักตั้ง นี่มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการภาพยนตร์ การเป็นตัวเอกในเรื่องต้องเริ่มจากตัวประกอบก่อน” หลัง
จากนั้นมา ‘ดามพ์ ดัสกร’ เลยปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ กลับรู้สึกว่า การเป็นดาวร้ายก็มีข้อดีกว่าการเป็นพระเอกอยู่บ้าง โดย ‘ดามพ์ ดัสกร’ เล่าถึงเหตุผลไว้ว่า “พระเอกถ่ายหนัง
ได้ครั้งละเรื่อง และหนังแต่ละเรื่องส่วนใหญ่จะมีเพียงคนเดียว แต่ดาวร้ายเรื่องเดียวมีหลายคน จึงทำให้ได้เล่นหนังกับพระเอกเกือบทุกเรื่อง อีกทั้งยังได้แสดงความสามารถของเราได้อย่างเต็มที่ให้สมบทบาทด้วย”
