ชีวิตโสด ‘ปุ๊ อัญชลี’
สำหรับ ‘ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ’ โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ที่ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในสายดนตรี หรือการแสดง มานานกว่า 30 ปี โดย ‘ปุ๊ อัญชลี’ เริ่มจากการเป็นนักร้องมากความ
สามารถ ด้วยน้ำเสียงสุดลุ่มลึกไพเราะบวกกับบุคลิกที่ต่างไปจากศิลปินคนอื่นๆ แฟนๆ หลายคนยอมรับในเสียงร้องของเธอ ‘ปุ๊ อัญชลี’ มีผลงานเดินแบบ และผลงานการแสดง จน
กระทั่งมาโด่งดังกับอัลบั้ม ‘หนึ่งเดียวคนนี้’ ปัจจุบัน ไม่น่าเชื่อเลยว่า ร็อคสตาร์สาวมาดเท่คนนี้จะอายุถึง 65 ปีแล้ว แต่ยังดูแข็งแรงเหมือนครั้งยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลยทีเดียว และเรียกไดว่า
‘ปุ๊ อัญชลี’ นักร้องสาวคนนี้ก็ประสบความสำเร็จในด้านอาชีพนี้มากๆ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป โดยก่อนหน้านี้ ‘ปุ๊ อัญชลี’ ก็ได้ให้
สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตก่อนจะเข้าวงการ “ตอนนั้นพี่ร้องเพลงอยู่แล้ว ก็ร้องตามโรงแรม พอเรียนจบกลับมาพอดีพี่สาวพี่เป็นดีไซเนอร์ เขาก็จัดแฟชั่นโชว์
ที่ต้องใช้นางแบบเยอะมาก แล้วมันขาดอยู่คนนึง มองไปมองมาเอา ปุ๊นี่แหละ ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในวงการนางแบบ คือร้องเพลง เล่นดนตรีให้พี่ชาย มีวง ก็มาได้เล่นหนังเรื่อง
นึงตอนนั้นยังไม่ได้ออกเทปนะ เสร็จแล้วมาเจอคุณปุ๊ที่แต่งเพลง ชุดหนึ่งเดียว ให้ก็เลยเริ่มเข้าวงการ แล้วตอนนั้นยอดวางจำหน่ายเทปสมัยนั้นก็จำหน่ายได้เป็นล้านเหมือนกันนะ
สมัยนั้นผลตอบแทนเยอะมาก เป็นกอบเป็นกำเลย” เคยคิดจะออกจากวงการไหม “เคยคิดนะ การแข่งขันมันก็บีบเข้ามาเรื่อยๆ คือบางทีเราก็ไม่ได้อยากกดดันตัวเองขนาดนั้น บางทีเรา
เป็นประเภทที่ทำไม่ได้แล้วฉันไม่ทำ พอแล้วไม่อยากร้องเพลงแล้ว เคยร้องแบบมีความสุขทำไมการแข่งขันมันสูงจัง ตอนนั้นมันก็เริ่มมีกิจการวงการเพลง ทำเทปใหญ่ๆ” แล้วทำไม
ก่อนหน้านี้หายจากวงการไปพักใหญ่ “พี่เริ่มร้องเพลงเพราะชอบ ร้องแล้วได้สตางค์ พี่ก็ทำ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับคิดว่าจะเอาความเป็นนักร้องมาเป็นอาชีพ ได้ออกเทปและมีคนรู้จักทั่ว
ประเทศ พอมีชื่อเสียงเราก็ทำตัวไม่ถูก จนเกิดเป็นความกลัวไม่รู้ว่าจะรักษาความโด่งดังนั้นไว้ยังไง สมัยนั้นไม่มีใครมาคอยดูแลหรือให้คำแนะนำนะ คิดเองทำเองหมดเลย ใช้ชีวิต
แบบไปหาเอาดาบหน้า ทำงานไปตามน้ำไม่ใช่ในแบบที่เราคิด วันนึงก็เลยตัดสินใจอยากที่จะพักตัวเองไปช่วงหนึ่ง ช่วงที่หายไป ก็มีโอกาสได้ไปร้องเพลงให้กำลังใจตามโบสถ์
หลังจากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป จากเราเคยเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจ ตามสไตล์ชาวร็อก จนวันนี้เราก็กลายเป็นคนใจเย็นลง แล้วก็ได้ลดความเป็นตัวตนลงและฟังคนอื่นมากขึ้นและมั่นใจ
ในตัวเองมากขึ้น ซึ่งมันก็เรียกความมั่นใจเรามากขึ้น และกล้าที่จะเข้าหาแฟนคลับ รู้วิธีการวางตัวและอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างมีความสุขค่ะ” แล้วเรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง “ที่ผ่านมาเรา
ก็เป็นเหมือนคนทั่วไป สำหรับพี่มองว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญนะ ความมันก็มีหลายรูปแบบ รู้สึกว่ารอบตัวอบอวลไปด้วยความรักทั้งจากครอบครัว มิตรสหายและแฟนเพลง ความรักจากพวกเขาหล่อเลี้ยงหัวใจเราได้ดีอยู่แล้ว”
